ออกมาเปิดใจว่ามีหนุ่มๆที่คุยกันบ้างแล้วสำหรับนางเอกสาว"แซมมี่ เคาวเวลล์" แต่ยังไม่สามารถระบุสถานะแฟนได้ ล่าสุดเจอเจ้าตัวใน งานบวงสรวงละครเรื่อง "ทะเลลวง" เลยสอบถามถึงเรื่องนี้พร้อมอัพเดตถึงเรื่องกระแสตอบรับผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมาได้ีความว่า
กระแสหนังเฮ้ยลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ เป็นยังไงบ้าง ?
ถามว่าคาดหวังไหม เราไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น เราแฮปปี้กับการได้เล่นแล้ว ส่วนกระแสเป็นอะไรที่กำไรนะในความรู้สึกแซม หนังเรื่องแรกด้วย ทุกวันนี้ยังมีแฟนคลับที่แท็กรูปตั๋ว มาทุกวันแสดงว่าทุกคนไปดูหนังกันมาทุกวัน ก็ดีใจบางคนดูเกิน2 รอบด้วย”
เราเสียดายช่วงเวลาในการฉายไหม เพราะนักแสดงแต่ละคนตัวใหญ่หมดเลย หนังควรจะเปรี้ยงกว่านี้ ?
มันเป็นสิ่งที่เราคอนโทรลมันไม่ได้แล้ว มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเราทุกคน แต่เราเต็มที่กับมันจริงๆ ไม่มีใครรู้สึกเสียดายหรอก ทุกคนแฮปปี้กับยอด กับอะไรหลายๆอย่าง”
เราได้เช็คในเรื่องของรายได้บ้างไหม ?
เราไม่ได้นั่งเช็ค บางทีเจอพี่ทีมงานก็มาบอกว่าตอนนี้ได้เท่านี้แล้ว
ได้ดูผลงานการแสดงของเราหน้าจอบ้างไหม ?
ดูๆ แซมก็ซื้อตั๋วเข้าไปดูเหมือนกันรอบสอง มันก็เขินๆนะ ตอนที่นั่งดูรอบสื่อมวลชนก็ยังเขินตัวเองเลย และก็ไปอุดหนุนหนังตัวเองอีกรอบนึง ก็ยังเขินเหมือนเดิม มันไม่ชิน ส่วนตัวก็พอใจนะ สำหรับหนังเรื่องแรกของเรา แฮปปี้ได้เจอพี่ๆและผู้กำกับที่เราไม่น่าจะมีโอกาสได้เจอบ่อยๆ มันก็ถือว่าเป็นประสบการณ์
เราได้เล่นกับเต๋อ ฉันทวิชช์ คาดหวังจะเป็นนางเอกร้อยล้านบ้างไหม ?
ไม่กล้าคาดหวังหรอกค่ะ อย่างที่บอกมันเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่นอยด์เลยเราแฮปปี้ด้วยซ้ำ มีแล้วเรื่องนึงก็อยากจะลองเล่นอีกเรื่อยๆ
ได้อ่านเพจที่มีการวิจารณ์หนังของเราบ้างไหม ?
ไม่ได้ดูเลยค่ะ แต่ก็จะเห็นจากที่ แท็กมาในอินสตาแกรม จริงๆแล้ว ฟีดแบ็กก็ดีนะ ที่เขียนมาก็โอเคนะคะ 90 เปอร์เซ็นต์ถือว่าเป็นคำชม
อย่างการวิจารณ์ในด้านลบ เราอ่านไหวไหม ?
ก็ไหวนะ ด้านลบที่เจอผ่านๆ เขาวิจารณ์โดยไม่ได้มีอคติอะไร วิจารณ์ตามเนื้อผ้า เนื้องานจริงๆ ซึ่งแน่นอนมันจะมีทั้งด้านดีและด้านลบ ในทุกเรื่องที่เราทำ
มีการทำใจมาก่อนไหมว่าต้องโดนกระแสด้านลบ ?
ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็มีหมดแหละทั้งสองด้าน เราแค่เลือกโฟกัสดีกว่า ด้านลบเราก็กลับมามองตัวเอง
อยากรับงานหนังอีกไหม ?
อยากค่ะ รู้สึกชอบวิธีการทำงาน วิธีการถ่ายทำ การแสดงมันก็ไม่เหมือนกัน เรียกว่าติดใจก็ได้ค่ะ
ตอนนี้ความรักเป็นยังไงบ้าง ?
ไม่มีอะไรอัปเดตเลยค่ะ ยังไม่มีอะไรให้เปิดเลย นอกจากรูปเข้าป่าขึ้นเขา ก็จะอยู่ทะเลซะส่วนใหญ่
คนพิเศษของเราไปด้วยไหม ?
ไม่ค่ะ ไปกับคุณแม่ คือต่างคนต่างใช้ชีวิต ต่างคนต่างทำหน้าที่ ทำงานกันไป ถามว่ามีเวลาให้กันไหม ก็ปกตินะ เวลาหลักๆ ของเราก็คืองาน เพราะฉะนั้นคิวไปเที่ยวเราก็รอจากงานที่ไม่ได้ใช้คิวถึงจะไป
ได้เจอกันบ่อยไหม ?
เรื่อยๆ ไม่ได้บ่อยมาก
มีแพลนทริปไปไหนด้วยกันไหม ?
ด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนเลยไม่กล้าแพลนอะไรเท่าไหร่
อย่างการไม่ไปเที่ยวด้วยกันเพราะไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกันรึเปล่า ?
ไม่ใช่ประเด็นค่ะเป็นเรื่องของเวลา การใช้ชีวิตที่อยู่กับเพื่อนหรืออยู่คนเดียว เข้าใจค่ะ เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่
ยังติดเรื่องอะไร ?
ไม่ติดอะไรเลย ปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมันไป เราไม่ได้ปิดนะ ไปไหนกับใครก็ไปปกติ ไม่ได้แอบอะไร
เขารีบเป็นแฟนไหม ?
ไม่ค่ะ”
ได้ถามเขาถึงเรื่องสถานะบ้างไหม ?
ยังไม่ได้คิดขนาดนั้น จะลองกลับไปคิดดู