แห่ยกย่อง "หมอ-พยาบาล" ทำคลอดหญิงติด "โควิด" สุดระทึก หากผิดพลาดติดเชื้อทั้งห้อง
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Nopparat Sutarapanakit" โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวการทำคลอด ว่า บันทึกไว้เตือนความทรงจำ 6/1/64 "สุขสันต์วันเกิด น้องโควิดา" (ชื่อนี้หมอๆ ตั้งให้เองน้า) ความตื่นเต้นเริ่มจาก แม่ติด covid positive GA 36 +2 with IUGR ประเมินน้ำหนักลูก 2,100 กรัม ติดมาจากพ่อที่ทำงานตลาดทะเลไท ทั้งแม่ทั้งหมอ ทุกคนเครียด แค้ป้องกัน Covid ก็ลำบากแล้ว นี่ต้องเตรียมรับแม่ที่จะคลอดได้ตลอดเวลา เวลา 1-2 อาทิตย์ สำหรับการเตรียมการถือว่าน้อยมาก มันเครียดสำหรับทุกฝ่าย สำหรับ รพ.อำเภอเล็กๆ ในพื้นที่สีแดงเข้ม ปัญหาเริ่มจากเด็กตัวเล็กไม่ครบกำหนดคลอด อาจจะคลอดเมื่อไหร่ก็ได้ พ่วงมาด้วย Covid ที่ใครๆ ก็กลัวไม่อยากเป็น เริ่มต้นด้วย หมอเมด บอกคนท้อง คือ high risk สำหรับ Covid 19 เพราะยาที่ให้มีข้อจำกัดเนื่องจากยังไม่ครบ 37 weeks หมอเมด หายากันให้วุ่น ไม่รู้ต้องให้เมื่อไหร่ถึงช่วยลด viral load เนื่องจากยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่โชคยังดี แม่อาการดีไม่มีปอดอักเสบ พอผล positive ก็ admit หมอทุกแผนก สูติ เด็ก เมด ลุ้นกันทุกคืน ใจก็อยากดึงให้ถึง 38 weeks เพราะไม่อยากให้เด็กเกิดมาแล้วมีปัญหาเรื่องการหายใจ ถ้าต้อง ใส่ ETT อาจแพร่ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลได้ แถมแม่ admit 31 ธันวาคม ยอมรับว่าเป็นวันสิ้นปีที่ลุ้นตลอดเวลา
* เปิดไทม์ไลน์ตาวัย 88 ปีดับจากโควิดรายล่าสุด
* "ก้อย"หยอก"บิ๊กตู่"กักตัวอยู่บ้านสู้"โควิด"ก็มีเงินใช้
* ยอดโควิดบ่อนไก่อ่างทอง 76 สถานบันเทิงปิ่นเกล้า 105
หมอหลายแผนกไปไหนไม่ได้ ต้อง stand by เผื่อภาวะฉุกเฉิน ผ่านไปแต่ละวันอย่างเนิ่นนาน มีการประชุมหาข้อสรุปว่าจะวางแนวทางรักษาทั้งแม่และลูก รวมทั้งแนวทางป้องกันเจ้าหน้าที่ทุกคนให้เสี่ยงน้อยที่สุด ยื้อได้ 5 วัน น้องโควิดา ก็อยากเกิด แม่เริ่มเจ็บท้อง การประชุมทั้งทีมเกิดความเครียด ตกลงไม่ได้ว่าจะทำไงดี จะเลือกความปลอดภัยของแม่ หรือลูก แถมพ่วงด้วยความเสี่ยงของการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น หมอทุกแผนก ปรึกษาอาจารย์ ใน รร.แพทย์ เผื่อหาแนวทางการดูแลที่ดีที่สุด เรียกว่า อ่านหนังสือ guildline paper เยอะแบบไม่เคยทำมาก่อน และทีมก็ตัดสินใจยอมให้หนูน้อย โควิดา คลอด ตอน GA 37 weeks เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เจ็บท้องคลอดกันใน ward Covid ซึ่งสถานที่ไม่อำนวยในการคลอด และเสี่ยงสำหรับเจ้าหน้าที่มากมายนับไม่ถ้วน หมอสูติ คิดหนัก เพราะหมอเด็กอยากรอถึง 38 weeks หมอเมด อยากรอให้ครบ 10 วันหลังจาก positive แต่หมอสูติบอกไม่ได้เลยว่าลูกจะอยากเกิดวันไหน ถ้าเกิดคลอดนอกเวลาเจ้าหน้าที่จะยิ่งไม่พร้อม ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมหาศาล แล้วยังคิดว่าจะหาใครมาเลี้ยงเด็กเพราะพ่อแม่ยังไม่ครบกักตัว 28 วัน ได้คุณยายวัย 72 ปีก็ยังดี แต่คงต้องเน้นเรื่องการป้องกันตัว ถ้าพ่อแม่ได้กลับบ้านไม่งั้นติดหลังคลอด หมอเด็กก็เครียดอีก
หมอเด็ก ก็กลัวถ้า C/S 37 week without labour pain ปัญหาของเด็กตัวเล็กรออยู่อีกมากมาย ที่กลัวที่สุด คือ เรื่องการหายใจ ( TTN ) แต่ต้องยอมแลกกับความเสี่ยงที่จะคลอดแบบฉุกเฉินกลางดึก ซึ่งไม่มีความพร้อม หมอเมด ก็เครียด เรื่องการให้ยาลดการความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ จัดหาที่ให้อยู่ (ตอนนี้คนไข้ Covid เยอะจนล้น ตอนนี้ก็ให้นอนห้องละ 3 คนอยู่แล้ว) หลังจากปรึกษากันเสร็จ สรุปได้วันผ่าตัดคลอด การเตรียมการใหญ่ ทั้งเตรียมทีม เตรียมห้อง เตรียมอุปกรณ์ (พันพลาสติกกันปนเปื้อน เพราะหลายอย่างต้องนำกลับมาใช้ซ้ำ) มหาศาล เจ้าหน้าที่ฝึกซ้อมแผนใหญ่ก่อนผ่าตัด 1 วัน ตั้งแต่ set ผ่าตัด เวรเปลพาแม่เข้า OR ปิดทางเดิน แม่บ้านตามทำความสะอาดสถานที่ที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายซ้อมใส่ชุดหมี ยากสุดตอนทำให้ N95 ฟิตกับหน้าไม่ให้มี leak ทำไงให้ถอดชุดง่าย ลดการปนเปื้อน คนที่ใส่แว่นหาสก็อตเทปติดกันแว่นหลุด ทำยังไงไม่ให้เกิดฝ้าที่แว่น และ face shield มันยากไปหมด พี่หมอสูติ ติด micropore อยู่หลายรอบ เวลาถอด N95 ไม่ให้ contaminate ดึงจนหนังหน้าหนังขอบตาล่างจะหลุดออกมา ถลอกไปหมด ส่วนหมอเด็กทีมรับเด็กก็ต้องหาวิธีคล้อง stet ไว้ตลอดเวลาจนเจ็บหู รูดชุดหมีคลุมให้มิดที่สุด แค่วันซ้อม ก็ใช้อุปกรณ์มากมาย
พอถึงวันจริง สรุป ทั้งหมอสูติ หมอเด็ก นอนไม่หลับ กลัวสารพัด คิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกรูปแบบเพื่อหาทางป้องกันไว้ก่อน หมอดมยาก็คงเครียดเหมือนกัน เพราะต้อง spinal block ให้สำเร็จอย่างเดียว ทั้งทีมต้องไม่ให้มีข้อผิดพลาด ซึ่งถ้าผิดพลาดนิดเดียวหมายถึงเจ้าหน้าที่เกือบ 30 ชีวิตมีโอกาสติดเชื้อ และคนทำงานคงหายไปหลายคน ในช่วงวิกฤตแบบนี้ยิ่งขาดใครไม่ได้เลย ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้เลยจริงๆ ที่เล่ามายาวอยากไว้เตือนตัวเอง และอยากถ่ายทอดว่าถ้าคุณแม่เป็น Covid (ไม่ได้หมายถึงคุณแม่ท่านนี้นะคะ คุณแม่ท่านนี้น่ารักมาก ติดมาจากสามีที่ได้มาจากการทำงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าใจ และอยากให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกปลอดภัยค่ะ) ไม่ใช่แค่ครอบครัวที่เครียด หมอๆ เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นก็เครียดมากกว่าหลายเท่า ดังนั้นช่วยกันระวังอย่าให้ตัวเองเป็น ถ้าเสี่ยงมาอย่าปกปิดให้บอกเจ้าหน้าที่ให้หมด ให้คิดว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนก็มีพ่อแม่ ลูก เมีย ที่เค้าต้องดูแล เค้าเสียสละหลายสิ่งเพื่อทุกคนปลอดภัย ใส่ mask ล้างมือ อย่าปกปิดประวัติ นึกว่าช่วยบุคลากรทางการแพทย์นะคะ save บุคลากรทางการแพทย์แล้วเราทุกคนจะ save คุณเต็มที่ค่ะ ขอบคุณทีมเด็กที่ให้หยวนได้มีโอกาสไปร่วมทีมนะคะ วันนี้ได้เห็นทุกฝ่ายทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย มันสุดยอดมากๆ ค่ะ วันนี้เป็นอีกวันที่ภูมิใจมากที่เรียน NB รู้สึกการรับเด็กกับทีมครั้งนี้มันยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุด ทุกบทเรียนวันนี้จะพยายามหาจุดบกพร่องเพื่อแก้ไขปรับปรุง เพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็คงมีเคสอีกในพื้นที่สีแดงเข้ม tag ไม่ครบทุกคน แต่อยากขอบคุณทั้งทีมที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่ทำให้ตัวเองรู้สึกมีคุณค่ามากจริงๆ
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนำนวนมากต่างเข้าไปชื่นชม พร้อมให้กำลังใจทั้งแพทย์และพยาบาล ที่ยอมทำคลอดให้กับหญิงรายดังกล่าวโดยไม่หวั่นเกรงว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอีกหนึ่งราย โพสต์ขอบคุณคุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำเพื่อประชาชน