วงเสวนาชี้นักพนันไม่กลัวโควิด-19 คาดเสพติดการพนัน ชี้เปิดบ่อนถูกกฎหมายได้ไม่คุ้มเสีย เชื่อปัญหายังไม่หมด ตำรวจรับรู้ปัญหาแต่ไม่ได้ทำอะไร บางแห่งจัดให้มีด้วย เกี่ยวข้องกับตำรวจระดับสูง ส่วนตำรวจตัวเล็กๆ ไม่ได้อะไร พอเกิดเรื่องเด้ง 5 เสือไม่มีประโยชน์ "คำนูณ"ชี้การแต่งตั้งโยกย้ายมีต้นทุน
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้มีการจัดเสวนา เรื่อง “หยุดบ่อน (พนัน) ทำลายเศรษฐกิจ ทำร้ายสังคม” โดยมี นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมเสวนา
"ปารีณา"อัดยับแซะ"ก้อย อรัชพร"ตกอับโหน"บิ๊กตู่"
แห่ยกย่อง"หมอ-พยาบาล"ทำคลอดหญิงติด"โควิด"สุดระทึก
นายธนากร กล่าวว่า ปัญหาบ่อนการพนันมีองค์ประกอบอยู่ 3 ฝ่ายเป็นอย่างน้อย 1.ผู้ประกอบการหรือเจ้าของบ่อน 2. ฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย และ 3. ฝั่งผู้เล่น ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันพบจำนวนผู้เล่นการพนันในบ่อนในช่วงปกติประมาณ 5 ล้านคน ถ้าสมมติในการระบาดโควิดแล้วมีนักพนันกลัวและเหลือผู้ที่ยังคงเล่นอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีนักพนันถึง 5 แสนคนที่ไปเล่นทั้งที่รู้ว่ามีความเสี่ยงเสียเงิน เสี่ยงถูกจับ และเสี่ยงรับเชื้อโควิด และแพร่ต่อได้อีกมหาศาล อย่างไรก็ตาม ต้องมาดูว่าอะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ยังดิ้นรนไปเสี่ยงกับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมีข้อมูลที่สอบถามมายังกล่องข้อความของของมูลนิธิ ว่าตัวเขาติดพนัน และอยากเลิกเล่น ดังนั้นต้องมาดูว่าการที่คนดิ้นรนออกไปเล่นการพนันทั้งที่มีความเสี่ยงมากมาย เป็นเพราะมีปัญหาเสพติดการพนันหรือไม่ ซึ่งถือเป็นโรคที่ต้องได้รับการบำบัดเช่นกัน อีกแง่หนึ่งคือการบังคับใช้กฎหมายห้ามเล่นการพนันอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะออกมาตั้งแต่ปี 2478 แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกฎหมายดังกล่าวยังมีส่วนที่ต้องแก้ไขเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องกลไกการทำงานที่ครอบคลุมทุกมิติ มีกลไกการทำงานที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น โดยเพิ่มมิติเรื่องของสุขภาพ การบำบัดรักษาผู้ติดการพนันเข้าไปด้วย โดยมีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมมือกัน และอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด ) ขึ้นมาดูแลเหมือนเรื่องเหล้า บุหรี่ ผนวกกับการปฏิรูปตำรวจเชื่อว่าปัญหาการพนันผิดกฎหมายจะลดลง ส่วนเรื่องการเปิดบ่อนถูกกฎหมายนั้น ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกามีการศึกษาต้นทุนผลกระทบจากการเล่นการพนันพบว่าต้นทุนผลกระทบต่อคนอยู่ที่ราวๆ 9 แสนบาท และแตกต่างจากรายได้การกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงหลักพันล้านบาท ดังนั้นตัวเลขของอเมริกาก็ชี้ให้เห็นว่าอาจจะไม่ได้คุ้มค่าเลยได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็จริงแต่มีความเสียหายที่มองไม่เห็นอีกมากมาย
รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ. ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการสำรวจการเล่นการพนันของคนไทยในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ พบว่ามีการเล่นการพนันในทุกจังหวัด แต่จากข้อมูลพบว่ามีผู้มีหนี้สินจากการพนันราวๆ 1 ล้านคน มูลค่าหนี้สินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดสะท้อนว่าปัญหาบ่อนการพนันในไทยมีมานาน ซึ่งการแก้ปัญหามีบางคนบอกว่าให้ทำเป็นบ่อนถูกกฎหมาย แต่เรื่องนี้ต้องมองหลายมิติ ซึ่งตนมองว่ามีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.รูปแบบบ่อนการพนันคนจะมองภาพคือบ่อนเป็นที่รวมศูนย์ความบันเทิงต่างๆ ซึ่งจะแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นในบางจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น ส่วนคนในพื้นที่อื่นๆ ก็ลักลอบเล่นแบบผิดกฎหมายเหมือนเดิม 2. การวางกรอบกติกาในการบริหารจัดการ การควบคุมผลกระทบของการพนัน และต้องบังคับใช้กติกาอย่างเข้มแข็ง ชัดเจน และ 3.การปฏิรูปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นบ่อเกิดของ การเกิดธุรกิจสีเทาขึ้นในประเทศไทย
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ สะท้อนว่ามีปัญหามาจากรากเหง้ามาจากเรื่องใต้ดินผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย และ เรื่องบ่อนการพนัน ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่ผุดขึ้นมาวันนี้ยังไม่หมด จริงๆ ตำรวจเองก็รู้รับรู้ถึงปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ไม่ได้ทำอะไร พูดตรงๆ บางแห่งตำรวจจัดให้มีด้วย ที่ตนพูดมานี่ยังเบาไปด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำรวจระดับสูง ส่วนตำรวจตัวเล็กๆ ไม่ได้อะไร ปัญหาคือพอเกิดเรื่องแล้วใช้ระบบการเด้ง 5 เสือ ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ใช่การลงโทษด้วยซ้ำ บางคนได้เลื่อนขั้นด้วยซ้ำ สิ่งที่ควรทำเพื่อเป็นการลงโทษคือ ย้ายแล้วตั้งกรรมการสอบถ้าจะให้เด็ดขาดก็คือสั่งสำรองราชการ ซึ่งเท่ากับทำงานย่อหย่อน ถ้าจะให้ดีกว่านี้คือต้องสั่งพักราชการ
เมื่อวันนี้กฎหมายบอกว่าการเล่นการพนันผิดกฎหมาย ผู้รักษากฎหมายก็ต้องทำตามอย่างเข้มข้น การบอกว่าที่แล้วมาก็แล้วไป แล้วข้างหน้าอย่าให้มีแบบนี้ ไม่ถูกต้องเป็นภาวะจำนน แต่ไม่ลงโทษคนชั่ว เป็นการทำร้ายจิตใจคนดี ทำร้ายคนดี และต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว ในกรมตำรวจนั้นมีการทำร้ายจิตใจตำรวจดีๆ อยู่ตลอดเวลา ตำรวจที่ดี สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาไม่ทำตามคำสั่งที่ไม่ชอบ แต่ถามว่าคนปฏิบัติแบบนี้จะอยู่ได้ในระบบแบบนี้หรือไม่ โดยเฉพาะมีการแต่งตั้งที่มีการวิ่งเต้น ใช้เส้นสาย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการร่างพ.ร.บ.ปฏิรูปตำรวจ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เปลี่ยนระบบการแต่งตั้งโยกย้ายให้ให้มีทั้งอาวุโส คะแนนผลงานจากการประเมินของประชาชน และการประเมินของผู้บังคับบัญชา ดังนั้นขอให้ประชาชนร่วมกันผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในสภา และต่อต้านฉบับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแก้ไข
นายคำนูณ กล่าวว่า การเป็นสิ่งผิดกฎหมายแต่ก็มีอยู่ในสังคมไทยมานาน พูดกันจนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามไม่ต้องพูดถึงการทำบ่อนถูกกฎหมายอะไร เอาแค่วันนี้ กฎหมายบอกว่าห้ามเล่นการพนัน ตำรวจก็ต้องยึดตามหลักการนี้และบังคับใช้กฎหมายตามนี้ ส่วนอนาคตจะมีการหารือว่าจะต้องปรับแก้กฎหมายหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างก็ตาม วันนี้บ่อนเป็นปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่สิ่งที่รู้คือยังมีการรับส่วยเปิดบ่อน แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้อย่างนั้นหรือ ทั้งนี้จากการติดตามเรื่องการปฏิรูปตำรวจ พบว่าปัญหามีการผูกโยงกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่มีต้นทุนจากการวิ่งเต้น ซื้อขายตำแหน่ง ลำพังเงินเดือน สวัสดิการคงไม่พอที่กับการลงทุนตรงนี้ จึงต้องการไปอยู่ในพื้นที่ทอง หรือพื้นที่ที่มีธุรกิจสีเทามาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาจนมีการบรรจุในรัฐธรรมนูญว่าต้องเร่งปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี แต่ผ่านมา 3 ปีแล้วยังไม่สำเร็จ ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ตำรวจชุดนายมีชัย ได้แก้ไขให้การแต่งตั้งโยกย้ายตามหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตำรวจทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงเพราะประชาชนจะเป็นผู้ให้คะแนน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการขอแก้ไข อย่างไรก็ตามตนอยากให้มีการใช้ระบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตามความรู้ ความสามารถ สัก 5 รอบการแต่งตั้งโยกย้าย จึงขอเรียกร้องนายกฯ และครม.ผลักดันร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ แม้จะแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็ยังช่วยให้ผู้รักษากฎหมาย ดำเนินการรักษากฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยคนที่อยากจะเป็นคนดี เป็นตำรวจที่ดีสามารถทำได้จริง