"หมอทวีศิลป์"พ้อโดนโซเชียลขุดข้อมูลส่วนตัว พยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ขอความเห็นใจด้วย น้อมนำพระดำรัสของสมเด็จพระสังฆราชที่ว่าคนที่เกิดมามีแต่คนคอยช่วยเหลือถือว่ามีบุญ แต่คนที่เกิดมาแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่นเป็นคนที่มีบุญมากกว่า
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า ขออภัยและขอโทษในเรื่องที่ตนได้สื่อสารไปหลายๆ เรื่องในช่วงของภาวะวิกฤติที่มีข้อมูลข่าวสารในเจตนาของการพูดคุยไปสำหรับเรื่องแอพพลิเคชั่น "หมอชนะ" ที่เราต้องการความร่วมมือจากประชาชนมากๆ ในการใช้แอพพลิเคชั่นนี้ปกป้องตัวของคนไทยทั้งหมด สังคมไทย และคนทั้งหมดที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งรวมถึงแรงงานต่างๆ แอพพลิเคชั่น "หมอชนะ" เป็นเครื่องมือในการติดตามตัวเพื่อให้การสอบสวนโรคทำได้ง่ายขึ้น ถ้าแต่ละคนมีแอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้ภาครัฐมีความมั่นใจว่าแต่ละคนได้แสดงตน ซึ่งเหมือนกับการพกพาสปอร์ตไปต่างประเทศ ส่วนที่มีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารเรื่องของโทษต่อกรณีของผู้ติดเชื้อที่ปกปิดข้อมูล จะมีบทลงโทษแน่ๆ โดยอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ แต่ถ้าผู้ติดเชื้อมีข้อมูลจากการใช้ "ไทยชนะ" หรือ "หมอชนะ" ที่ทำให้เราสามารถสืบค้นได้นั้น ก็ไม่ถือว่ามีความผิด ตนไม่เคยต้องการให้การให้ข่าวนี้สร้างความตื่นตระหนกตกใจหรือความรู้สึกที่ว่าต้องมาบีบบังคับทุกครั้ง อยากเชิญชวนทุกท่านเข้ามาโดยไม่ต้องบังคับ แต่เมื่อวานหลังจากที่ได้สื่อสารออกไป รู้สึกไม่สบายใจ เจ็บปวดหัวใจเหมือนกันจากที่ได้เห็นโซเชียลมีเดียออกมามากมายในเชิงทางลบ แต่เมื่อเช้านี้ หลังจากได้เห็นยอดตัวเลขดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น 'หมอชนะ' ในวันเดียว เพิ่ม 2 ล้านกว่าครั้ง จึงทำให้จากที่เสียใจมาดีใจขึ้นได้ทันทีในวันนี้ ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจและปฏิบัติตามในช่วงวิกฤติเช่นนี้ ทำไมถึงอยากให้ใช้ 'หมอชนะ' เพราะเกิดเหตุแต่ผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่บอกข้อมูล ขณะที่หมอชนะช่วยเก็บข้อมูลการเดินทาง ช่วยหมอทำงาน ลดเวลาทำงาน และไม่โหลดไม่ผิด แต่จะเสียเวลาในการสอบสวนโรค แต่หากปกปิดข้อมูลและให้ข้อมูลเท็จก็จะมีความผิด
สธ.ห่วงการติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น
"หมอแม่สอด"เผยผู้ป่วยโควิดรายใหม่จาก Sky complex 14 คน
เด็กอวยพร "บิ๊กตู่"อายุยืนเป็นนายกฯนาน ๆ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ตนมาเป็นโฆษก เป็นคนที่สื่อสารกับประชาชนโดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการซึ่งได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง คือผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่รับผิดชอบอยู่ในจังหวัดภาคอีสานตอนใต้ แต่ตำแหน่งโฆษก ศบค.เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้น ที่บอกว่าตนพูดพาดพิงถึงภาระของประชาชนในเรื่องภาษีนั้น เป็นการที่มีผู้นำคำพูดต่างๆมาตัดต่อ แล้วยังระบุว่าไม่ให้ตนรับเงินเดือน อีกทั้งมีบางคนไปเจาะค้นข้อมูลของตนว่ามีเงินเดือน เบี้ยประชุม และเงินประจำตำแหน่งจำนวนเท่าไหร่ และไปทำงานให้เอกชนด้วยหรือไม่ จึงขอชี้แจงว่าการทำหน้าที่ ที่ ศบค.ไม่ได้มีเบี้ยประชุมเลย ทำงานด้วยใจ และมีเงินเดือนของตัวเองอยู่แล้วในระดับที่พอประมาณ และถ้ามีเวลาว่างในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไปหารายได้เพิ่มมาจุนเจือครอบครัว แต่ในช่วงโควิด-19 ไม่ได้ไปออกตรวจข้างนอกเลย จึงไม่มีรายได้เข้ามา การที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ขอความเห็นใจใดๆ แต่ต้องการชี้แจงชุดข้อมูลให้ทุกคนได้ทราบ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าสิ่งที่กระทบมากที่สุดที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียซึ่งโยงตนไปกับการเมือง หรือบอกว่าตนติดในอำนาจและเรื่องการเมือง บอกเลยว่าไม่ได้คิดที่จะไปทางนั้น แต่อยากอยู่ในหน้าที่ข้าราชการที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย และจะทำให้เต็มที่เพื่อประชาชน เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานเพื่อประชาชน ภูมิใจในความเป็นตัวเอง ดังนั้น ถ้าตอนนี้มีข่าวคราวทั้งหลายและกระทบถึงส่วนตัวและครอบครัว ตนพยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องขอความเห็นใจด้วย ตนน้อมนำพระดำรัสของสมเด็จพระสังฆราชที่ว่า คนที่เกิดมา มีแต่คนคอยช่วยเหลือถือว่ามีบุญ แต่คนที่เกิดมาแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนที่มีบุญมากกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันทำพร้อมๆ กันเพื่อเอาชนะโควิด-19