รองโฆษก ตร.เตือนส่งต่อ-แชร์ข่าว "โควิดปลอม" โดนโทษปรับ-รับสิทธิ์นอนคุก 5 ปี
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ย้ำเตือนกรณีการแชร์หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ว่า ที่ผ่านมายังพบว่ามีการนำเข้า ส่งต่อ และแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องโดยใช้ข้อมูลบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน หรือตื่นตระหนก อาทิ แอพพลิเคชั่น "Away Covid-19" จะหลอกลวงขอข้อมูลจากผู้ใช้บริการ จึงห้ามเพิ่มเพื่อนโดยเด็ดขาด ซึ่งกรณีดังกล่าวได้รับการยืนยันจากผู้พัฒนาแล้วว่าไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าไม่มีการหาผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ที่เข้ามาใช้บริการแต่อย่างใด ดังนั้นการกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่าย "นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งผู้ที่แชร์หรือส่งต่อข้อความในลักษณะดังกล่าว จะมีความผิดฐานเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่น่าจะเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ปารีณา"แจ้งความดำเนินคดีทนายดังหมิ่น
อาการ "ผวจ.สมุทรสาคร" ดีขึ้นมาก
ข่าวปลอม!แอพ"หมอชนะ"คิดเงินข้อความละ 5 บาท
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าอย่าซ้ำเติมประชาชนด้วยการสร้างข่าวปลอม ขอให้หยุดการกระทำเพราะทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ไขการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนว่า ก่อนที่จะแชร์หรือส่งต่อข้อความใด ควรตรวจสอบให้ดี เพราะอาจถูกหลอกลวงจนไปสร้างความสับสน และความตื่นตระหนกให้กับสังคม ที่สำคัญ คือ เป็นความผิดทางอาญาซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เร่งปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี พร้อมให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดไปดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร่งด่วนต่อไป