หนุ่มขอคืนดีอดีตแฟนสาวไม่สำเร็จใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาวก่อน ยิงตัวเองตายตาม
วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 10 ม.ค ร.ต.อ สุชาติ จำนงค์บุญ รอง สว.(สอบสวน) สภ. บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในร้านส้มตำ ต. สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ พิษณุ พราหมณ์เทศ รอง ผบก.ภ.จว พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ บางปะอิน พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ กู้ชีพ รพ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ภายในร้านพบผู้บาดเจ็บ น.ส.นีรนุช เตชะวา อายุ 24 ปี เป็นพนักงานของร้านส้มตำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่เร่งทำการปฐมพยาบาลช่วยเหลือนำส่ง รพ.เสียชีวิตที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา ข้าง น.ส.นีรนุช พบศพ นายหาญณรงค์ โสปันหริ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่บริเวณปาก ใกล้กันพบอาวุธปืน ลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืน อยู่ในรังเพลิง 1 ปลอก และตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
อ่านข่าวอื่นน่าสนใจ
* หนาวสุดรอบปี 8 องศา ชาวบ้านริมโขงต้มน้ำอาบ งดหาปลาขาดรายได้ (คลิป)
* ช็อก! 8 ขวบติดโควิด ตามพ่อไปบ่อนไก่
* เปิดไทม์ไลน์ “3 หญิงอยุธยา” ติดโควิด
สอบถาม น.ส.วิไลลักษณ์ แสงสุวรรณ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน อยู่ในอาการตกใจ ทราบว่า น.ส.นีระนุช เป็นแม่ครัวของร้าน ขณะเกิดเหตุ กำลังตำส้มตำอยู่ เพราะมีลูกค้าสั่งส้มตำและอาหาร จังหวะนั้น นายหาญณงค์ อดีตแฟนเก่า มาหาที่ร้าน เพื่อขอคืนดี และมีปากเสียงกัน ตนจึงให้ลูกค้าที่มาซื้อของช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จังหวะนั้น นายหาญณรงค์ ได้ใช้อาวุธปืน ยิงน.ส.นีรนุช ที่ศีรษะ และตะโกนบอก ไม่ให้ใครเข้ามาช่วย ลูกค้าต่างพากันตกใจวิ่งหนีออกจากร้าน แล้วนายหาญณรงค์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงกรอกปากตัวเองอีก1 นัดจนเสียชีวิต
จากการสอบสวนพยาน ที่เกิดเหตุ ทราบว่า นายหาญณรงค์ ได้เข้ามาที่ร้าน 1ครั้ง มีปากเสียงกัน และย้อนกลับมาอีก จนกระทั่งมาก่อเหตุอีก ซึ่งน่าจะเกิดความโกรธแค้น ที่ น.ส.นีรนุช ไม่ยอมคืนดีด้วย จึงเกิดความโมโห ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.นีรนุช และยิงตัวเองเสียชีวิตตามไป โดยก่อนหน้านี้ น.ส.นีรนุช มีปากเสียงกับ นายหาญณรงค์ ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่า มาขอคืนดี ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ มาทำการสอบสวน อย่างละเอียด พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์พระนครศรีอยุธยา ได้ตรวจร่องรอยเขม่าปืนเพื่อประกอบพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุสรุปสำนวนตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป