นิวยอร์ก, 12 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (11 ม.ค.) ราคาของบิตคอยน์ (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ร่วงลงกว่าร้อยละ 20 หลังจากพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐ
(ราว 1.26 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ coindesk.com ระบุว่า ราคาของบิตคอยน์ได้ร่วงลงมาอยู่ที่ระหว่าง 30,305-38,947 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.1 แสน ถึง 1.17 ล้านบาท) ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยสูญเสียมูลค่าบางส่วนที่
เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนที่จะทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 8 ม.ค. บิตคอยน์มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1 ล้านบาท) โดยราคาบิตคอยน์พุ่งแตะ 20,000 ดอลลร์สหรัฐฯ (ราว 6 แสนบาท)
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 สร้างความตื้นเต้นให้ผู้ถือสกุลเงินดังกล่าวในทั่วโลก
ราคาที่ตกในวันจันทร์ (11 ม.ค.) ถือเป็นการสิ้นสุดการพุ่งทะยานมาหลายสัปดาห์ของบิตคอยน์ โดยนักวิเคราะห์ตลาดหลายคนมองว่าราคาที่ร่วงลงนี้ เป็นการถดถอยลงของราคาที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
ซึ่งถูกเรียกกันว่าฟองสบู่บิตคอยน์
เจฟฟรีย์ กุนด์ลาช ผู้บริหารบริษัทดับเบิลไลน์ แคปิทัล (DoubleLine Capital) ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี (CNBC) เครือข่ายโทรทัศน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (11 ม.ค.) ว่า “สำหรับผมแล้ว บิตคอยน์ตอน
นี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างอยู่ในภาวะฟองสบู่ ในแง่การปรับตัวของราคา” พร้อมเสริมว่าเขาไม่ชอบที่สกุลเงินดิจิทัลมีการเคลื่อนไหวเช่นนี้