เจ้าอาวาสฉาวถูกร้องมีสัมพันธ์สีกา ย่องเงียบสึกแล้ว ก่อนหนีหายล่องหน
จากกรณีที่สาวใหญ่อายุ 50 ปี เข้าร้องเรียนทีมข่าว พร้อมนำคลิปวิดีโอและแชตไลน์มาเป็นหลักฐาน หลังมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเจ้าอาวาสวัดชื่อดังใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาต่อเนื่องกว่า 2 ปี แต่ถูกตีตัวออกห่าง และจับได้ว่าคบหาผู้หญิงหลายคน อีกทั้งหลอกตนว่าจะสึกออกมาอยู่กินเป็นผัวเมีย แต่ก็ไม่ยอมทำตามสัญญา แถมยังให้คนมาข่มขู่ และทำร้ายตน จนคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและความผิดตามวินัยสงฆ์ขึ้น เพื่อชี้มูลในเรื่องดังกล่าวภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 17 ม.ค.นี้นั้น
* ตรังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายที่ 2 เป็น นศ.สาวกลับจากปราจีนบุรี
* ตร.ชี้ชัด "ฟอร์ดเกียร์ R" ถอยชนดะเข้าข่ายคดีอาญา
* "อัจฉริยะ" แย้มข่าวดีใกล้ได้ตัวคนฆ่า"น้องชมพู่"
ล่าสุด วันที่ 14 ม.ค. พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาตามข่าว ได้ทำการขอลาสิกขา โดยยื่นความต้องการที่จะลาสิกขาเอง ทำให้ทางคณะสงฆ์ชัยนาท รู้สึกเห็นใจและเข้าใจว่า อดีตเจ้าอาวาส ยอมเสียสละตนเองโดยลาสิกขาโดยไม่มีใครบังคับหรือสั่งการ เป็นการปกป้องไม่ให้พุทธศาสนา มัวหมอง เป็นมลทิน ส่วนเรื่องที่ลาสิกขาแล้วการสอบสวนความผิดวินัยสงฆ์อาจจะต้องยุติลง เพราะถือว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มีสถานะความเป็นพระให้สอบสวนเอาผิดแล้ว ซึ่งหลังลาสิกขาก็ไม่มีใครทราบว่าอดีตเจ้าอาวาสไปพักอยู่ที่ใหน
ด้านสาวใหญ่ หลังจากที่ทราบว่าทางอดีตเจ้าอาวาสคู่กรณี ได้ยื่นเรื่องขอลาสิกขา เพื่อให้เรื่องจบ ก็ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า รู้สึกพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สบายใจนักเพราะการลาสิกขาด้วยตนเอง ไม่มีการจับสึกนั้น เป็นการเลี่ยงบาลีเอาตัวรอด เพราะตามระเบียบเมื่อลาสิกขาเองก็สามารถขอกลับมาบวชใหม่ได้ หลังจากลาสิกขา14วันก็มาบวชใหม่ได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอนและก็จะกลับเข้าสู่วังวนเดิมที่คู่กรณีจะกลับมาก่อเหตุกับเหยื่อรายอื่นๆ อีก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วย ส่วนความรักที่เคยมีต่อกันนั้น สาวใหญ่บอกว่า มาถึงวันนี้ตนโดนกระทำมาเยอะ จึงไม่เหลือความรักให้อีก แม้ว่าจะมาขอคืนดี มาบอกรัก ก็ขอยืนยันไว้ว่าไม่กลับไปตกนรกอีกแน่นอน
ทางด้านชาวบ้านในตลาดใกล้วัด ที่ส่วนหนึ่งยังรักและศรัทธาอดีตเจ้าอาวาส แต่ละคนยังอยู่ในอาการช็อกไม่คิดว่าพระที่ตนเองเคารพศรัทธาจะลาสิกขา แต่ก็บอกว่าทุกคนยังรอให้ท่านกลับมาปกครองวัดเหมือนเดิม เพราะเป็นนักพัฒนา สร้างโบสถ์ วิหาร ปรับปรุงพื้นที่ภายในวัด จนสวยงาม จนถึงวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านมั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้ง จากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์จากการบริหารวัดของอดีตเจ้าอาวาสดังกล่าว และมั่นใจว่าชายในภาพวงจรปิดที่ฝ่ายสาวใหญ่เอามาอ้าง ไม่ใช่อดีตเจ้าอาวาสอย่างแน่นอน