ชาวทวิตเตอร์แห่ติดแฮชแท็ก #300ล้าน ไม่เห็นด้วยคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อนุมัติงบประมาณ 300 ล้าน
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากได้มีการทวีตภาพและข้อความพร้อมติดแฮชแท็ก #300 ล้าน จนติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ โดยส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยกรณีคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับสนับสนุนเงิน จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2564 โดยบางส่วนมองว่า ควรจะนำเงินส่วนนี้ไปช่วยคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก่อน หรือนำเงินไปใช้ในด้านอื่น แทนที่จะนำไปผลิตภาพยนตร์เสริมสร้างความรักชาติ 30 ล้านบาท ขณะที่แหม่มโพธิ์ดำ ได้ทวีตข้อความว่า "อยากดู ๆๆๆ #หนังรักชาติ 30 ล้าน"
เจ็บเหมือนรถชน "ต่าย อรทัย" เผยเลิกแฟนด้วยดี
"นุ๊ก"สุดช้ำ"บ้านเช่า"พังยับ ซุกถุงมือปลอม-มั่วยาเสพติด
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกองทุน พร้อมด้วยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม รองประธานกรรมการกองทุน ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ประธานอนุกรรมการบริหารกองทุน เข้าประชุม และกรรมการกองทุนจำนวนหนึ่งประชุมในระบบทางไกล ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมตามกรอบระยะเวลาและหลักเกณฑ์ตามที่สำนักงานกองทุนนำเสนอ ซึ่งคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนให้ความเห็นชอบเบื้องต้นมาก่อนแล้ว
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า คณะกรรมการกองทุนได้เห็นชอบการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับสนับสนุนเงิน จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2564 วงเงินงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อให้สำนักงานกองทุนดำเนินการต่อไป โดยรายละเอียดของการจัดสรรทุนประจำปี 2564 มีรายละเอียดประกอบด้วย
1.โครงการประเภทเปิดรับทั่วไป (Open Grant) วงเงินไม่เกิน 90 ล้านบาท
-กลุ่มเด็กและเยาวชน 30 ล้านบาท
-กลุ่มผู้สูงอายุ 20 ล้านบาท
-กลุ่มคนพิการและผู้ด้อยโอกาส 20 ล้านบาท
-กลุ่มประชาชนทั่วไป 20 ล้านบาท
2. โครงการประเภทเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) วงเงินไม่เกิน 180 ล้านบาท
*โครงการหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการผลิตภาพยนตร์เสริมสร้างความรักชาติ 30 ล้านบาท
*โครงการหรือกิจกรรมขนาดกลาง จำนวน 100 ล้านบาท ตามประเด็นดังนี้
- การเรียนรู้สิทธิและหน้าที่ของความเป็นพลเมือง
- การสร้างเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว
- การสร้างจิตสำนึกผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย
- การสร้างความสามัคคีของคนในชาติ
* โครงการหรือกิจกรรมขนาดเล็ก วงเงิน 50 ล้านบาท ได้แก่ โครงการหรือกิจกรรมตามประเด็น ดังนี้
- การทำนุบำรุงสถาบันหลักของชาติ
- การสร้างสื่อเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม
- วัฒนธรรมกับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
- การสร้างสื่อเพื่อเชิดชูบุคคลที่ทำความดี
- โทษและความเสี่ยงของสื่อออนไลน์
3.โครงการประเภทความร่วมมือ (Collaborative Grant) วงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท
มีขอบเขตของโครงการหรือกิจกรรมสำหรับผู้ขอรับการสนับสนุนที่เป็นภาคีเครือข่ายหรือผู้ผลิตสื่อที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีประสบการณ์หรือผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และมีวัตถุประสงค์โครงการหรือกิจกรรมสอดคล้องกับภารกิจของคณะอนุกรรมการตามมาตรา 21 (13)
ดร.ธนกร กล่าวต่อว่า กองทุนจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจรับทราบรายละเอียดการเปิดขอรับทุนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปในทุกช่องทาง โดยกำหนดการที่ตั้งไว้คือวันที่ 18 มกราคม 2564 จะเริ่มเปิดระบบให้ยื่นคำขอเป็นวันแรก แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ประธานกรรมการกองทุนลงนามในประกาศให้เรียบร้อยก่อนซึ่งคาดว่าหากมีความเคลื่อนคงไม่เกิน 2-3 วัน ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารความคืบหน้า รายละเอียดต่างๆ ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์
02-2730116-8 เว็บไซต์กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ www.thaimediafund.or.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์