สลด! จ้างเลี้ยงลูกวัยขวบครึ่ง 3 วัน สมองบวม-เส้นเลือดคอขาด อาการสาหัส

นายโจ  และ น.ส.กองทอง สองสามีภรรยา เปิดเผยว่า ตนเองและภรรยา ทำงานอยู่ ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ก่อนหน้านี้ พ่อของตนเองได้เลี้ยงให้ แต่ตนเองเห็นว่าพ่อมีอายุมากแล้ว จึงได้ตกลงกันว่าจะนำลูกมาอยู่ด้วยและจะหาจ้างคนเลี้ยง จึงได้ เข้าไปดูในกลุ่มเฟซบุ๊ก หาคนเลี้ยงเด็ก จนไปพบคนเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นสองสามีภรรยาและมีคนแนะนำด้วยว่า เลี้ยงดี และอยู่ใกล้บ้าน สะดวกที่เลิกงานแล้วเราจะไปหาลูกได้ จึงได้นำลูกชายไปฝากเลี้ยงไว้ ช่วงเช้าเมื่อวันที่ 23 ม.ค และช่วงเย็นก็ไปหาลูกชาย แต่เห็นลูกชายอยู่ในบ้าน ไม่ได้เข้าไปหาเพราะกลัวว่าลูกจะงอแงและร้องตาม

จนมาเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ม.ค. พี่เลี้ยงได้โทรศัพท์มาหาตนที่ทำงานและบอกให้ตนเองซื้อยา แก้ตัวร้อน ยาแก้อักเสบ  และของใช้ลูกเข้ามาให้ด้วย ตนจึงได้ซื้อมาให้ที่บ้านและก็ได้รับแจ้งจากพี่เลี้ยงว่า ลูกชายลื่นล้มในห้องน้ำแต่ไม่เป็นอะไรมาก ตอนนี้หลับอยู่ตนจึงไม่ได้เข้าไปดูกลัวว่าน้องจะร้องตาม และก็กลับมาบ้าน จนมาช่วงเช้าของวันที่ 25 ม.ค. ทางพี่เลี้ยงได้โทรศัพท์มาหาตนเอง บอกว่า ลูกชายมีอาการชัก ให้รีบมา รพ.อุทัย ตนเองพร้อมภรรยาจึงได้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลและก็เห็นสภาพลูกชายมีใบหน้า บวมเขียวช้ำ หมดสติและทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลซักประวัติ ลูกชายของตนเองเพื่อจะนำส่งต่อ รพ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเด็กมีอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัวพอไปถึงโรงพยาบาลหมอได้พาเข้าห้อง ICUทันที และพยาบาลก็พูดคุยกับตนเองว่า เด็กนั้นสมองบวม มีเลือดคั่ง เส้นเลือดนัยน์ตาเหมือนจะแตก เส้นเลือดในคอขาด เหมือนทำนองมีรอยเตะหรือผลักคออย่างแรง และมีเลือดออกในช่องท้อง  ตอนนี้น้องอาการสาหัสมาก และบอกให้ตนกลับมาอยู่บ้านก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาดูน้อง ตนจึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.อุทัย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาทำการสอบสวนหาสาเหตุกับพี่เลี้ยง ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่าน้องจะลื่นล้มเองและ มีอาการสาหัส เป็นตายเท่ากัน แต่ถ้าเกิดจากอุบัติเหตุจริง ตนเองก็จะไม่ติดใจ แต่ถ้าเกิดจากการกระทำของพี่เลี้ยงตนเอง จะดำเนินคดี และอยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยติดตามและสอบคดีให้ด้วย