ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ขู่ใช้มาตรการคว่ำบาตรเมียนมาอีกครั้ง หลังจากกองทัพเมียนมายึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ พร้อมทั้งควบคุมตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำประเทศ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี พ.ศ. 2534 และบรรดาผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งคนอื่น ๆ กล่าวหาพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซู จี ว่า โกงการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเอ็นแอลดีชนะถล่มทลายในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ไบเดน กล่าวว่า “กองทัพไม่น่าจะคว่ำเจตนารมณ์ของประชาชน หรือพยายามลบล้างผลการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ”
ทั้งนี้ สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาเมื่อ 10 ปีก่อน เนื่องจากเมียนมามีความก้าวหน้าในการพัฒนาประชาธิปไตย นายไบเดน บอกว่า สหรัฐจะทบทวนมาตรการคว่ำบาตรอย่างเร่งด่วน และกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐจะสนับสนุนประชาธิปไตยไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่ประชาธิปไตยถูกโจมตี
ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกการกระทำของกองทัพเมียนมาว่า “ทำลายการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง” ขณะที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉิน และยูเอ็นก็เรียกร้องให้ปล่อยตัวประชาชนอย่างน้อย 45 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่
ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา ขณะนี้ ทหารออกลาดตระเวนไปตามถนนสายต่าง ๆ และมีการบังคับใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืน พร้อมกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่ นางซู จี ก็เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร โดยในจดหมายที่เธอเขียนขึ้นล่วงหน้าก่อนถูกควบคุมตัว เธอบอกว่า การกระทำของทหารจะทำให้ประเทศกลับไปอยู่ภายใต้เผด็จการเหมือนเดิม