ผบช.สตม. ลงพื้นที่ตรวจเข้มชายแดน หวั่น "รัฐประหาร" ทำชาวเมียนมา ทะลักเข้าไทย
ศธ.สั่งสอบด่วน"ผอ."เครียดปมฉาวชักปืนหน้าเสาธง
“พิชัย” รอดอัยการสั่งไม่ฟ้อง “คดีกบต้ม”
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.คงฤทธิ์ สุกใส ผกก.ตม.จ.กระบี่, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ ผกก.บคด.บก.ตม.4 และคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี เนื่องจากเป็นชายแดนภาคตะวันตกซึ่งติดกับประเทศเมียนมา ซึ่งขณะนี้กำลังประสบปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย จนส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันเกิดการทำรัฐประหารในประเทศเมียนมา จึงกังวลว่าชาวเมียนมา บางส่วน และคนกลุ่มน้อย จะหลบหนีข้ามชายแดนมายังประเทศไทย หากปัญหาภายในประเทศรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ คณะของ ผบช.สตม. ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และจุดผ่านแดนด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า หลังจากประเทศไทย ประกาศปิดด่านชายแดนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และผ่อนปรนให้แรงงานผิดกฎหมายในประเทศที่อยู่มาก่อนวันที่ 29 ธ.ค.2563 สามารถลงทะเบียนแรงงานได้ จึงเกรงว่าจะมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอีก ประกอบกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศเมียนมา ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อป้องกันชาวเมียนมา และชนกลุ่มน้อย ไม่ให้ลักลอบเข้าประเทศไทย หากสถานการณ์ภายในเมียนมา มีความวุ่นวาย ตนพร้อมคณะจึงเดินทางมาตรวจชายแดนทั้ง 3 จังหวัด เบื้องต้นพบว่าที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ยังคงมีช่องทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวใช้หลบหนีเข้าไทย ขระเดียวกันได้รับรายงานทางลับว่า ยังมีแรงงานเมียนมา ที่มีความต้องการเข้าประเทศไทยมากถึง 4 แสนคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้าไทยมาแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งตำรวจหลายหน่วยงานช่วยกันจับกุมไว้ เบื้องต้นพบว่าค่าหัวของขบวนการนำพาแรงงานเมียนมา เพิ่มสูงขึ้นถึงหัวละ 15,000 บาท แต่หากเป็นชาวจีน จะเพิ่มขึ้นถึงหัวละ 50,000 บาท ซึ่งขณะนี้ตนสั่งการให้ บก.ตม.3 และ บก.สส.สตม. เร่งดำเนินการจับกุมขบวนดังกล่าวให้ได้โดยเร็วที่สุด
ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. สั่งให้ตนมาดูแลสถานการณ์หลังเกิดการปฏิวัติในเมียนมา เพราะเกรงว่าชาวเมียนมา จะข้ามพรมแดนเข้ามามากขึ้น และนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทยด้วย จึงสั่งการให้ตำรวจ ตม.ประสานตำรวจท้องที่ ตชด. และทหาร ให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ เพราะหากมีเหตุวุ่นวายขึ้นในประเทศเมียนมา อาจทำให้ชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางมาตรวจชายแดนด้านตะวันตกไปแล้ว พร้อมสั่งการให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการตรวจตราตามแนวชายแดน ปัจจุบันตำรวจ จ.กาญจนบุรี และ สตม. มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วตลอดแนวชายแดน ซึ่งพร้อมปฏิบัติการได้ทุกเมื่อ ขณะที่ตำรวจ ตชด. ได้เพิ่มกำลังการตรวจตราแนวชายแดนเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างเข้มข้น