โฆษก พท.อัดรัฐคิดไม่รอบ "โครงการเราชนะ "ตัดสิทธิคนมีรายได้เกิน 3 แสน ประชาชนเป็นผู้แพ้ไม่มีแม้แต่เงินประทังชีวิต
"ทนายตั้ม" ยื่นเอกสารขอความเป็นธรรมศาลคดี "ลุงพล"
"เชฟแต่ง"ยืนได้ ฝึกหายใจทางจมูกสำเร็จ
"การบินไทย" แจงแล้วปมดราม่า "ปาท่องโก๋" ไร้คนต่อแถว?
แกะลายมือจ่าหน้าซองจดหมายสำเร็จแล้ว
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า โครงการเราชนะ ซึ่งประชาชนที่เคยใช้สิทธิ “คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน” บนแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” เช็คสิทธิในวันนี้วันแรกพบว่า เกิดปัญหาอย่างมาก เพราะรัฐอนุมัติให้คนได้สิทธิจากการนำรายได้ในปี 2562 ที่เกิน 300,000 บาท มาคำนวณการรับเงินเยียวยา ซึ่งในปีนั้นยังไม่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถูกเลิกจ้าง ตกงานหรือรายได้ลดลงตั้งแต่ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงปีนี้ไม่ผ่านการอนุมัติจำนวนมาก และยังมีช่องโหว่โดยพบว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไว้ก่อนหน้านี้กลับได้สิทธิ์ในโครงการเราชนะทั้งที่ไม่ได้ถูกเลิกจ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาลคิดไม่รอบคอบ หากปัญหาอยู่ที่การยื่นภาษีในปี 2563 ที่ยังไม่ถึงกำหนด ควรหาวิธีการอื่นที่สามารถสำรวจผู้ได้รับผลกระทบที่แท้จริงได้ง่ายกว่านี้ เช่น ข้อมูลคนตกงานจากกระทรวงแรงงาน ทั้งผู้ประกันตน มาตรา 33, 39, 40 รวมทั้งแรงงานนอกระบบ (ฟรีแลนซ์) ที่ไม่มีสวัสดิการใด ๆ หรือสามารถพิจารณาหาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานประกอบการที่รัฐบาลมีคำสั่งปิดในการระบาดทั้ง 2 ระลอก และต้องเร่งเยียวยาโดยเร็ว อย่าปล่อยให้คนที่เดือดร้อนที่รัฐมองไม่เห็นอย่างลุงที่ปีนเสาไฟที่ไม่ได้รับเงินเยียวแม้แต่บาทเดียวเพราะไม่มีสมาร์ทโฟนต้องเกิดขึ้นซ้ำอีก
“รัฐบาลนี้ผิดตั้งแต่วิธีคิดทั้งที่การเยียวยาจากภาครัฐ ทุกคนต้องได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม แต่หลายครั้งที่มาตรการของรัฐสร้างความเหลื่อมล้ำ เช่น เราชนะตัดสิทธิ์คนมีรายได้เกิน 3 แสนบาทไม่ได้รับการเยียวยา ซึ่งถือว่าชนเพดานชนชั้นกลางที่รัฐกำหนดให้ใช้ชีวิตด้วยเงินเท่านี้ เป็นอีกมิติหนึ่งของสังคมชนชั้นที่รัฐกำหนดเอง ชื่อโครงการเราชนะแต่เต็มไปด้วยผู้แพ้ ผู้แพ้ที่เป็นประชาชนไม่มีแม้แต่เงินประทังชีวิต” น.ส.อรุณีกล่าว