ซูเปอร์โพล เผย ปชช.เชื่อ "แผ่นดิน" ยังศักดิ์สิทธิ์ช่วยขจัด "คนไม่ดี" ชี้ "3 ป." ผ่านฉลุย
"หมอ"เตือน!ศึกโควิดยังไม่จบหากระบบคัดกรองอ่อนด้อย
ค้นพบ “แมลงวันขายาวปีเตอร์อาจารย์จุฑามาส” สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลก
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เชื่อมั่น 3 ป. ผ่าน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,730 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.9 คาดหวังต่อข้อมูลของฝ่ายค้าน แน่น น่าเชื่อถือ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 9.1 ไม่คาดหวัง นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.2 ระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลทำงานมีปัญหาจริง ตามที่ฝ่ายค้านตั้งโจทย์ ขณะที่ร้อยละ 9.8 ระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาในการทำงาน ที่น่าสนใจ คือ เกือบร้อยละร้อย หรือร้อยละ 99.3 ระบุว่า หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องการให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.3 ระบุว่า ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ชาติ และร้อยละ 93.0 ระบุว่า ต้นเหตุอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยปละละเลย ทุจริต ขนแรงงานเถื่อน บ่อนพนัน ยาเสพติด และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.8 เชื่อมั่นต่อ 3 ป. ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะสามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ฉลุย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์” ใครทำอะไรไว้ไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองทั้งที่แยบยลและไม่แยบยล ย่อมจะมีพลังอะไรบางอย่างจัดการ "กวาดให้เรียบ" ยิ่งถ้าขั้วอำนาจใดมีรากลึกแข็งแกร่งเกินไป ขั้วอำนาจที่เหลือก็จะอ่อนแอ ยวบยาบ และบ้านเมืองก็จะเคลื่อนยาก เสาหลักต่างๆ อาจจะโคลงเคลง เพราะขาดความสมดุลแห่งอำนาจ (Balance of Power) ที่ดี ดังนั้นการถ่วงดุลอำนาจต่างๆ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อแผ่นดินนี้ เป็นเรื่องจำเป็น และหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจำเป็นต้องพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าการปรับคณะรัฐมนตรี นั่นคือ การถ่วงดุลอำนาจไม่ให้ใครมีอำนาจคับฟ้ามากจนเกินไป เพราะอำนาจเป็นแหล่งผลประโยชน์ที่ถ้าใครครอบครองมากเกินไปก็จะแข็งแกร่งมากเกิน จนขั้วอำนาจอื่นๆ ที่เหลืออยู่จะอ่อนยวบยาบในวันหนึ่งข้างหน้า จนความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนจะถูกละเลย โดยเสียงที่ทุกข์ยากของประชาชนจะไปไม่ถึงผู้ปกครองสูงสุด "สมมาตรแห่งอำนาจ" จึงจำเป็น