อุตุฯ ย้ำเตือน ปชช. "55 จังหวัด" ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง 8-9 ก.พ.นี้
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดลดต่อเนื่องเหลือ 237 ราย
เมียนมา ตัดอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 6 เรื่อง พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2564 โดยระบุข้อความว่า ช่วงวันที่ 7-9 ก.พ.2564 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือ ตั้งแต่วันนี้ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในวันที่ 8-9 ก.พ.2564 ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรเอาไว้ด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้เนื่องจากจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มีลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมีดังนี้
วันที่ 7 ก.พ.2564
ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และแพร่
วันที่ 8-9 ก.พ.2564
ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง