ผบ.ตร.สั่งเร่งจับกุม "แม่เสี่ยโป้" พร้อมพวก 31 ราย ยันไม่รู้จัก "พ่อบ้านโย" ตามที่ถูกพาดพิง
“ธนกร” แจงรัฐบาลไม่เกี่ยวมติรัฐสภาส่งศาล รธน.
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าการขยายผลคดี นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ซึ่งถูกจับกุมฐานชักชวนเล่นพนัน และกระทำผิดฐานฟอกเงิน ว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาที่มีเงินจำนวนมาก จะเรียนรู้ว่าอะไรที่เป็นพยานหลักฐานทำให้เขาติดคุก ซึ่งเขาจะไม่ทำ เช่น หลักฐานเส้นทางการเงิน ทำให้ตำรวจตรวจสอบยาก และผู้ต้องหาจะกลัวที่สุด คือ เรื่องการฟอกเงิน ดังนั้นเราต้องหาเส้นทางการเงินให้ได้ แม้ว่ามันจะยากก็ต้องทำ เพราะฉะนั้นแต่ละคดีที่ทำต้องใช้เวลาและร่วมกันทำหลายหน่วยงาน แต่ตำรวจไม่สามารถมาพูดให้ใครฟังได้ว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งเมื่อจับกุมแล้วต้องเอาให้ลง แต่จะเห็นว่ามีความพยายามจะสร้างกระแสว่าทำไมไม่จับคนนั้นคนนี้ ซึ่งเป็นการทำลายน้ำหนักของเจ้าหน้าที่ ตนบอกแล้วว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม ถ้าเราไม่ทำ ต่อไปตำรวจจะกล้าไปจับใคร
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ศปอส.ตร.จับมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งมาทำ ซึ่งผู้ต้องหาจะสู้ทุกคดี และนอกจากการติดตามจับกุม นางบานเย็น ชาญนรา แม่ของนายเสี่ยโป้ แล้ว ยังมีหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 31 หมาย ซึ่งต้องจับให้หมด หากพยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องทำ ยืนยันว่าคดีทุกเราตั้งใจทำ บางเรื่องไม่ได้พูดว่าจะทำอะไร ถ้ามีความคืบหน้าจะมาแถลง ถ้ายังจับไม่ได้แล้วจะเอามาพูดทำไม ส่วนประเด็นที่ว่า นายเสี่ยโป้ มีผู้อยู่เบื้องหลังนั้น เป็นกระแสที่สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น คนนี้เขาก็มีธุรกิจของเขา เขาอาจจะมีพวกพ้อง บริวาร มีคู่ค้า ซึ่งหากเราเจอก็จับมาตลอด ไม่ใช่แก๊งนี้แก๊งเดียว แต่เขาต้องมีวิธีการสู้ของเขา ตอนนี้ก็สู้นอกศาล สร้างเรื่องไปเรื่อย ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ออกมาเคลื่อนไหว ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอให้ดูกันเอาเอง ตนไม่เอ่ยชื่อเพราะรักใคร่ชอบพอกันมาหลายปี แต่ทุกคนทำอะไร เรื่องสร้างกระแสทั้งหลาย ก็ทำเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องทั้งนั้น ส่วนจะพยายามดิสเครดิตตนหรือไม่ก็เรื่องของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเราไป เมื่อถามอีกว่า ผบ.ตร.มีปัญหากับ นายสันธนะ หรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า มีปัญหา เป็นคู่รักกันมานาน เวลาพี่เขาออกมาพูดอะไรก็เหมือนเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง ถ้าเรามองในมุมหนึ่งก็คือมีคนคิดถึงเราตลอดเวลา
เมื่อถามถึงกรณีที่ ผบ.ตร.ถูกพาดพิงเรื่อง "พ่อบ้านโย" อยากจะชี้แจงหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วการที่เอาเรื่องจริงมาผสมเรื่องเท็จมาพูดสร้างกระแสไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมานานแล้ว อยู่ที่เราต้องพยายามทำงานออกมาให้เห็น การมานั่งชี้แจงบางครั้งทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้ทุกเรื่อง และขอยืนยันว่าในชีวิตไม่เคยรู้จัก "หลงจู๊" ไม่เคยคุยกัน แค่เคยได้ยินชื่อ มีข่าวสารว่าเขาทำอะไร แต่ข่าวอย่างเดียวมันดำเนินคดีได้หรือไม่ ก็ต้องมีพยานหลักฐานว่าไปตามกฎหมาย หากเราไม่ยึดกฎหมายใครจะยึด ขอให้ดูกันไป ใครหนีได้ก็หนี ตอนสมัยตนเป็นรองสารวัตร มีคดีกำลังจะขาดอายุความ 20 ปี ไม่ถึงเดือนยังไปตามจับมาได้ ถ้าตำรวจหวั่นไหวกับเรื่องแบบนี้ ต่อไปคงไม่มีใครทำอะไร จะจับใครก็กลัวผลกระทบ แล้วสังคมจะอยู่กันอย่างไร จะอยู่กันแบบนี้ใช่หรือไม่ เรื่องสร้างกระแสด่ากัน ตนก็ด่าคนเป็น ไม่ใช่ไม่เป็น แต่ตนไม่ทำ เพราะเราอยู่ในฐานะที่ต้องดูแลลูกน้องเป็นแสนนาย และมีหน้าที่ต้องทำ