ฮือฮา! พบ “ไห 4 หู” โบราณล้ำค่าอายุ 800 ปี ผลพวงค้นหา “มุกเมโล-อ้วกวาฬ”

2021-02-14 08:00:50

ฮือฮา! พบ “ไห 4 หู” โบราณล้ำค่าอายุ 800 ปี ผลพวงค้นหา “มุกเมโล-อ้วกวาฬ”

Advertisement

สุดฮือฮา! พบ “ไห 4 หู” โบราณล้ำค่าอายุ 800 ปี ผลพวงค้นหา “มุกเมโล-อ้วกวาฬ” หาดเกาะเพชรเมืองคอน

จากกรณีที่มีการพบหอยและมีเม็ดมุก ที่ชายหาดเกาะเพชร หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่มารู้ภายหลังว่าเป็นมุกเมโลที่หายากและแพงที่สุดในโลก ที่จนเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างกว้างขวาง ต่างแห่แหนไปหาหอยมุกกันอย่างคับคั่ง และต่อมา ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เปิดข้อพิรุธหลายประการที่ขัดแย้งกับหลักวิชาการ โดยสองผัวเมียดีใจและพร้อมให้ทุกฝ่ายช่วยตรวจสอบโดยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงไม่ได้มีการกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด จนรายล่าสุดพบมุกเมโลที่ จ.ชลบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากข่าวการพบมุกเมโลในทะเลอ่าวไทย ริมชายหาดเกาะเพชร อ.หัวไทร จนในตอนกลางมีผู้คนแห่กันมาเดินตามแนวชายหาดเผื่อจะโชคดีได้พบหอยชนิดเดียวกันและมีเม็ดมุกอยู่ข้างใน รวมทั้งเผื่อพบอ้วกวาฬซึ่งมีราคาแพงเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ทั้งมุกเมโลและอ้วกวาฬ เพียงแค่เป็นข่าวยังไม่สามารถขายได้ จึงอยากให้ผู้ซื้อหรือหน่วยงานใด ๆ ก็ได้เป็นคนประสานงานกับผู้ซื้อเพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสขายจะได้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวในช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยในแต่ละคืนจะยังมีชาวบ้านออกไปเดินริมชายหาดเสาะหาหอยมุก อ้วกวาฬและของมีค่าอื่น ๆ อย่างคึกคัก




ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวประมงพบ “ไห 4 หู”โบราณอายุนับพันปีที่ชายหาดเกาะเพชร หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายมูสา โต๊ะมะสงัด หรือ “บังมูสา” อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/3 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของบ้านผู้พบไหโบราณ 4 หู ได้นำไหที่เป็นเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ลักษณะรูปร่างคล้ายน้ำเต้าจีน สูงประมาณ 1 ฟุตเศษ ท้ายเล็กกว้างประมาณ 4 นิ้ว ตรงกลางโป่งออกกว้างประมาณ 10 นิ้ว ปากกว้างประมาณ 8 นิ้ว ใต้ปากไหมีหู 4 ด้าน หรือ 4 หู ไม่มีรอยแหว่งหรือบิ่นแม้แต่น้อย มีแค่รอยหอยเพรียงทะเลเกาะจนเป็นรอยขาว ๆ ทั่วไห แต่โดยภาพรวมถือว่ายังสมบูรณ์แข็งแรง ครบถ้วยนสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีปราชญ์ท้องถิ่นระบุว่าเป็นไหโบราณน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 700-800 ปี และมีความเป็นไปได้สูงที่มาจากประเทศจีน

นายมูสา โต๊ะมะสงัด กล่าวว่า นอกจากหอยมุกเมโล และอ้วกวาฬ น้ำหอม แคปซูลภายในบรรจุข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีสิ่งของมีค่าโบราณถูกคลื่นซัดมาเกยชาดหายเกาะเพชรอย่างต่อเนื่อง เพราะตามตำนานของเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำ ศูนย์กลางพุทธศาสนา และการค้าขายกับต่างประเทศมาตั้งแต่ครั้งโบราณ จึงมีเรือสำเภาบรรทุกสินค้าจากต่างประเทศมุ่งหน้ามาทำการค้าขายกับเมืองนครศรีธรรมราชจำนวนมาก และมีเรือสำเภาล่มหรืออับปางกลางทะเลลึกทำให้ทรัพย์สินของมีค่าต่าง ๆ จมหายไปในทะเล ในช่วงหน้ามรสุมคลื่นในทะเลปั่นป่วนทำให้สิ่งของที่จมอยู่ใต้โคนถูกคลื่นหอบขึ้นมาก่อนพัดเขาไปหาชายฝั่ง มีผู้พบของมีค่าบรรจุในไหหารือภาชนะอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีชาดหาดหลายจุดที่มักจะพบทรัพย์สินโบราณจนเรียกชายหาดที่พบว่า “หาดเกาะเพชร บ้านเกาะเพชร ชายหาดนำทรัพย์ บ้านนำทรัพย์” เป็นต้น



“ก่อนหน้านี้ในสมัยรุ่นปู่ รุ่นพ่อก็มีคนพบไหโบราณแบบเดียวกันนี้หลายขนาด โดยบางใบก็เป็นไหเปล่า ๆ เหมือนที่ตนพบ แต่บางใบยังมีแก้ว แหวน เงินทองของโบราณอยู่ข้างในจำนวนมาก แม้แต่จำพวกโซ่ขนาดใหญ่ที่ใช้ล่ามช้างในสมัยโบราณแต่ที่พิเศษคือเป็นโซ่ทำด้วยทองคำก็การเล่าต่อ ๆ กันมาว่ามีคนพบหลายครั้ง ๆ ยาวบ้าง สั้นบ้าง ในครั้งแรก ๆ คนที่พบไม่ทราบว่าทำด้วยทองคำคิดว่าเป็นทองเหลือโยนทิ้งกลับไปในทะเลก็มี”

นายมูสา โต๊ะมะสงัด กล่าวอีกว่า สำหรับไห 4 หูโบราณในลักษณะเดียวกันนี้มีผู้พบมาแล้วหลายครั้ง และมีคนที่ชอบสะสมของเก่ามาขอซื้อใบละหลายหมื่นบาท บางใบมูลค่าสูงเป็นแสนบาทก็มี สำหรับไหใบที่ตนพบนี้ความจริงตนพบมาเกือบ 1 ปีแล้วโดยตนออกไปวางอวนจับปลาพบว่าติดไหใบนี้ขึ้นมาด้วย และตนเก็บเรื่องเงียบเอาไว้บอกเพื่อนบ้านเพียงไม่กี่คน แต่ก็มีคนมาขอซื้อให้ราคาหลายหมื่นบาท ตนไม่ยอมขาย เพราะเป็นของโบราณ หายากมาก ๆ ประกอบกับครอบครัวของตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองมากนัก จึงเก็บเงียบเอาไว้เองเป็นที่ระลึก จนกระทั้งผู้สื่อข่าวมาขอชมดังกล่าว

พระไพโรจน์ ฐิตรตโณ พระลูกวัดเกาะเพชร กล่าวว่า ครอบครัวนายอานนท์ หรือ “บังหมัด” นิยมเดชา อายุ 60 ปี และนางเจ๊มิน๊ะ นิยมเดชา อายุ 57 ปี สองผัวเมียบ้านเกาะเพร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่ลูกชายพบหอยมีเม็ดมุกเมโลอยู่ข้างใน ยอมรับว่าไม่มีใครรู้ตักและเคยพบเห็นมาก่อน จึงแจ้งให้ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราชทราบเพื่อให้ช่วยติดต่อประสานงานนำไปสู่การซื้อขายกันต่อไป นอกจากนี้ชาวบ้านพบและเก็บอ้วกวาฬไว้หลายรายหนักรวมหลายสิบกิโลกรัม ทราบว่ามีราคา แต่ชาวบ้านไม่รู้ขายที่ไหนอย่างไร และในขณะที่มีผู้ติดต่อเจ้ามาอ้างว่าพบหอยและเม็ดมุกลักษณะเดียวกันอีกหลายราย ทั้งพัทลุง พังา ภูเก็ต โดยมีบางคนระบุว่าพบและเก็บไว้นานกว่า 20 ปีแล้ว และรายล่าสุดล่าสุดที่ จ.ชลบุรี ทุกคนติดต่อมาสอบถามเพราะเขาไม่ทราบว่าจะขายที่ไหน ขายให้ใครเช่นกัน



“ตนอยากให้ผู้ที่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง อย่าแค่เพียงชี้ตำหนิว่าเป็นเรื่องไม่จริง เป็นการกุเรื่องหรือเป็นของปลอมอย่างเดียว เพราะชาวบ้านที่พบเขาไม่รู้จัก เขาไม่รู้เรื่องไม่เคยพบเห็นมาก่อน ซึ่งอาตมาจะลาสิขาบทในวันที่ 14 ก.พ. 2564 นี้ เพื่อจะได้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องมุกเมโล และอ้วกวาฬ ไห 4 หูโบราณ และอื่น ๆ ที่ชาวบ้านพบมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจะนำมุกเมโลไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ต่อไป.”