มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 150 คน อาคารบ้านเรือนและสาธารณูปโภคเสียหายในวงกว้าง จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูด ใต้ทะเลนอกชายฝั่งทางภาคตะวันออกตอนกลางของญี่ปุ่น เมื่อช่วงก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์ (13 ก.พ.) ที่ผ่านมา ซึ่งทางการญี่ปุ่นระบุว่า เป็นหนึ่งในอาฟเตอร์ช็อก ของแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.3 แมกนิจูด มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 60 กิโลเมตร ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งจังหวัดฟุกุชิมะ ทางตะวันออกของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 23.08 น.คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติญี่ปุ่น หรือ เจเอ็มเอ ระบุว่า เป็นแรงไหวติดตาม หรือ อาฟเตอร์ช็อก ของแผ่นดินไหวครั้งมโหฬาร 9.1 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดครั้งนี้ และทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์พัดเข้าหาชายฝั่งหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกตอนบน มีผู้เสียชีวิตกว่า 18,000 คน
ในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เกิดดินภูเขาถล่ม และเส้นทางคมนาคม ทั้งทางรถยนต์และรถไฟ ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน บริการรถไฟโดยสารหลายเส้นทางในภูมิภาค ประกาศระงับการเดินรถเมื่อวันอาทิตย์
ทางด้านรายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอาคารบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภค ที่พังเสียหายในวงกว้าง ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวเมื่อคืนวันเสาร์ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 104 คน โดย 3 คนในจำนวนดังกล่าวอาการสาหัส แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต และยังไม่พบความผิดปกติ ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งในพื้นที่