แชร์ว่อน! รถกระบะไร้น้ำใจ ไม่ยอมหลบกู้ภัย ทั้งเปิดไซเรน บีบแตร ประกาศผ่านลำโพง แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ขับขวางหน้าตลอดทางกว่า 6 กิโลเมตร ขณะออกไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถชนกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเชื่อน่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง ทำให้เสียเวลา เตือนเป็นอุทาหรณ์อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
วันที่ 16 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกออนไลน์ กำลังแชร์และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างขวางขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความ "กระบะแล้งน้ำใจ ไม่หลบทางให้รถกู้ภัย หลบทางให้พวกผมเถอะครับ คนที่พวกผมกำลังไปช่วยอาจเป็นญาติของคุณ" พร้อมคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 1.50 นาที ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กำลังขับรถตู้กู้ชีพ ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถกระบะชนกัน ที่ถนนเพชรเกษม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แต่ระหว่างทางได้มีรถกระบะมิตซูบิชิ ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน ที่ขับอยู่ด้านหน้าหน้ารถกู้ภัย ขับขวางหน้าตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้รถกู้ภัยแซงหน้าได้เลย แม้ว่าจะเปิดไซเรนขอทางก็แล้ว บีบแตรก็แล้ว ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงก็แล้ว แต่รถกระบะคันดังกล่าวขับกลับเร่งเครื่องไปข้างหน้าและไม่ยอมหลบให้รถกู้ภัยผ่านได้โดยง่าย จนกระทั่งมาถึงจุดที่มีรถฟอร์จูนเนอร์ขับอยู่ด้านหน้าอีกก็สามารถขับแซงไปได้ ก่อนที่จะไปถึงจุดที่เกิดแต่ไปถึงช้า
ผู้สื่อข่าวสอบถาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เจอเหตุการณ์ณ์ดังกล่าว และเป็นผู้ที่โพสต์คลิปในโซเชียล คือ นายกิตติพล กราซุย อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย สังกัดหน่วยกู้ชีพอ่าวลึก เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อประมาณ ช่วงเที่ยงเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ตอนนั้นตนอยู่ที่บ้านบากัน ต.อ่าวลึกน้อย ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติรถชนกันที่ถนนเพชรเกษม ม.3 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก และมีคนเจ็บติดในรถ ตอนนั่นกำลังจะทานข้าวพอดีหลังรับแจ้งก็ทิ้งจานข้าวแล้วชวนแฟนสาวออกไปที่จุดเกิดเหตุ โดยขับรถตู้กู้ชีพออกไป ตามถนนสายอ่าวลึกน้อย บนถนน 2 ช่องจราจรแต่ระหว่างทางเมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบากัน ก็มีรถกระบะมิตซูบิชีคันดังกล่าว ขับอยู่ด้านหน้า จึงได้เปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทาง ซึ่งรถทุกคันก็ได้หลีกให้ยกเว้นรถกระบะที่ปรากฎในคลิป พยายามเปิดไซเรนขอทาง บีบแตร แต่ก็ไม่ยอมหลบให้ ผ่านไป 2 กิโลเมตร ตนรู้สึกเสียอารมณ์มากจึงให้แฟนสาวที่นั่งมาด้วยถ่ายคลิปเอาไว้ และประกาศผ่านลำโพงให้รถกระบะคนดังกล่าวหลบซ้าย แต่ก็ยังไม่ยอมหลบอยู่ดี และพยายามแกล้งตนตลอดเวลา พอจะแซงขวาก็ขับขึ้นมาบล็อกทันที เป็นอย่างนั้นอยู่อีก ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก็สามารถขับแซงได้ก่อนจะไปถึงที่เกิดเหตุ รวมระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เสียเวลาไปหลายนาที หลังเสร็จภารกิจก็ได้โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กเพื่อเป็นอุทาหรณ์ แก่ผู้ใช้รถถนนไม่ได้มีเจตนาที่จะประณามแต่อย่างใด
“ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ว่าไม่ควรใช้พฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว หากคนที่แระสบอุบัติเหตุเป็นญาติพี่น้องของคุณ จะรู้สึกอย่างไร เมื่อเจอรถพยาบาล รถกู้ภัย หรือรถตำรวจิ ถ้าเขาเปิดสัญญาณไซเรนมา ให้ช่วยกรุณาหลบข้างทาง ให้สักนิด เพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะช่วยผู้บาดเจ็บได้ทันหรือไม่ เรายอมเสียเวลาไม่กี่วินาทีก็มีส่วนช่วยชีวิตคนอื่นรอดได้แล้ว” นายกิตติพลกล่าว