"ชาวเน็ต"จับโป๊ะภาพ ตร.อัด"ม็อบ"อาจตัดต่อขั้นสูง

2021-03-01 19:05:06

"ชาวเน็ต"จับโป๊ะภาพ ตร.อัด"ม็อบ"อาจตัดต่อขั้นสูง

Advertisement

"ชาวเน็ต" จับโป๊ะโซเชียลแห่แชร์ภาพ ตร.เตะ "ม็อบ" อาจถูก "มือดี" ใช้วิธีตัดต่อขั้นสูง

"กนก รัตน์วงศ์สกุล"ฮึ่มไล่แฉ"ดารา-นักร้อง"หนุนม็อบ

หวยออกตรงเป๊ะ 538 ตู้ขนวัคซีนโควิด-19

รักยังหวาน “เวียร์” ปัดข่าวลือเลิก “เบลล่า” รับใช้ผู้จัดการคนเดียวกัน

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "ศิระกร ลำใย" โพสต์รูปภาพเปรียบเทียบ พร้อมระบุข้อความว่า ภาพใบหน้าตำรวจที่ทำร้ายประชาชนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด : เทคโนโลยีทำให้ภาพชัดบางเทคโนโลยี อาจทำให้ไม่ได้รูปภาพที่เหมือนต้นฉบับเสมอไป ช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคม 2564 ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพประกอบสองภาพ ซึ่งเป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมในการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมกับภาพระยะใกล้ (close up) ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกระทำการรุนแรงดังกล่าว [1] แม้ว่าจะเห็นชัดว่ามีการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งไม่มีอาวุธอันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน แต่เป็นไปได้ที่ภาพใบหน้าของตำรวจคนดังกล่าวจะเป็นภาพที่ไม่สามารถใช้ในการอ้างอิงเพื่อสืบหาตำรวจผู้กระทำผิดมาลงโทษ เนื่องด้วยเหตุผลต่อไปนี้ หากพิจารณาบริเวณคางและแก้มของตำรวจในภาพ จะพบร่องรอยเสมือนกลุ่มเนื้อซึ่งเกาะตัวกันแบบผิดปกติ สิ่งเจือปน (artifact) ในภาพเหล่านี้อาจบ่งชี้ [2] ว่าภาพใบหน้าภาพนี้เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมสำหรับขยายขนาดภาพ (image upscaling softwares) ซึ่งใช้เทคโนโลยีจำพวกการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) แบบต่างๆ เข้ามาช่วยในการสร้างภาพ




หลักการในการสร้างโปรแกรมลักษณะดังกล่าว หากให้อธิบายโดยง่ายที่สุด คือนำภาพหน้าคนจำนวนมากมาเบลอ แล้วสอนให้โปรแกรมรู้จักคู่ของหน้าคนก่อนและหลังเบลอ เมื่อโปรแกรมเห็นภาพหน้าคนที่เบลอ ก็จะสามารถหยิบรายละเอียดจากภาพหน้าคนที่ชัดที่โปรแกรมเคยเห็นมาก่อนหน้านี้เพื่อเติมลงไปในภาพได้ อย่างไรก็ตาม การที่โปรแกรมหยิบรายละเอียดมาเติมในภาพ ไม่ได้หมายความว่าหน้าตาของบุคคลในภาพหลังจากที่โปรแกรมเติมเข้าไป และหน้าตาของบุคคลจริง จะเหมือนกันทั้งหมด โปรแกรมจะเติมภาพได้ดีที่สุดเท่ากับภาพทั้งหมดที่โปรแกรมเคยเห็นระหว่างที่มันเรียน ในบางกรณีโปรแกรมอาจจะเติมภาพได้ไม่ถูกต้องแม้แต่น้อย เช่นในงานวิจัยโครงข่ายประสาทเทียม PULSE [3] สำหรับการเติมรายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน มีผู้ค้นพบว่า PULSE เติมใบหน้าของบารัก โอบาม่า ด้วยเอกลักษณ์และโครงหน้าของผู้ชายผิวขาว [4] ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยง่ายผ่านการที่โปรแกรมไม่ได้เรียนรู้ลักษณะของใบหน้าคนที่หลากหลายมากพอ แม้เทคโนโลยีจำนวนมากอาจทำหน้าที่เหมือนช่วยเหลือในการสืบหาความจริงจากหลักฐานที่มีจำกัด ผู้ใช้ควรตระหนักถึงข้อจำกัดและข้อควรระวังเมื่อใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์ที่มากที่สุด


ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ชุมนุมซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏอยู่ในภาพ ยืนยันว่า ถูกตำรวจทำร้ายร่างกายตามภาพจริง ภาพดังกล่าวจึงไม่ได้ถูกตัดต่อแต่อย่างใด