กกต.มีมติส่ง "ศาลรัฐธรรมนูญ" ตีความสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของ "อดีต 5 กปปส."
ส.ส.ดาวฤกษ์ยอมรับมี “คนต้นคิด”งดออกเสียงให้ “ศักดิ์สยาม”
สธ.ยังไม่เปิดลงทะเบียนจองคิว-ขอรับวัคซีนที่ รพ.
ป.ตามรวบ"หนุ่ม"แต่งพระหนีคดีหาเงินเล่นพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. มีรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้พิจารณาสมาชิกภาพของสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและความเป็นรัฐมนตรี ตามคำพิพากษาของศาลอาญา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ประกอบกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ กกต.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาพ ส.ส.รวม 5 ราย ว่ามีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ หลังศาลอาญา มีคำพิพากษาดังนี้ 1.นายชุมพล จุลใสจำ (เลยที่ 3) ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 9 ปี 24 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง 5 ปี 2.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ (จำเลยที่ 4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต้องคำพิพากษาจำคุก 7 ปี 3.นายอิสระ สมชัย (จำเลยที่ 5) ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 7 ปี 16 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมีจำนวน 5 ปี 4.นายถาวร เสนเนียม (จำเลยที่ 7) รมว.คมนาคม และ ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปี และ 5.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ (จำเลยที่ 8) รมว.ศึกษาธิการ และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ต้องคำพิพากษาจำคุก 6 ปี 16 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง 5 ปี
ทั้งนี้ กกต.ได้พิจารณาแล้วพบว่ามีเหตุให้สมาชิกสภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงรวม 5 ราย และพบเหตุความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง 3 ราย จึงมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ตามมาตรา 82 และมาตรา 170 ซึ่งกำหนดเอาไว้ว่า กรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลง หรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความเป็นสมาชิกสภาพทั้ง ส.ส. และ รัฐมนตรี