"ราเมศ"ชี้รัฐสภาลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไข รธน.ได้หรือไม่ รอฟังศาล รธน.
"นก ยลดา" อดีตนางงาม เล่านิทานสอนใจ อ่านมาอ่านไป เอ๊ะ !! เหมือนชีวิตใครหว่า ?
รู้จักมา 11 ปี “ตู่ ปิยวดี” ช่วยคอนเฟิร์ม “เค วัฒนา” ว่าที่เจ้าบ่าว “จั๊กจั่น” มีโลกใบเดียว
“กานต์” อยากให้ผ่อนหนักเป็นเบา หลังเห็นข่าว “แอมมี่” ถูกจับ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 09.30 น.ในคำร้องที่มีการส่งให้ตีความวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ว่า พรรคไม่ได้กังวลใจต่อเรื่องดังกล่าว หลักการของพรรคชัดเจนว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะทำให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น เราไม่ได้มองว่าต้องการทำเพื่อประโยชน์ของฝ่ายการเมืองแต่เรามองไปถึงเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของประชาชนและโครงสร้างของระบบการเข้าสู่อำนาจระบบการเลือกตั้งระบบการตรวจสอบทุจริตสิ่งต่าง ๆเหล่านี้ควรที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นแน่นอนที่สุดว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยประชาชนและประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์กับสิ่งต่างๆเหล่านี้ แต่เมื่อกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพรรคได้แสดงความจริงใจในทุกช่วงเวลาที่มีการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพรรคมีความตั้งใจด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้สำเร็จลุล่วง เมื่อมีสมาชิกรัฐสภายื่นเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความและศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาปรึกษาหารือและลงมติในวันที่ 11 มี.ค. เราเชื่อมั่นและให้ความเคารพในอำนาจตุลาการคงจะคาดคะเนไปก่อนไม่ได้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยให้เดินหน้าแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อไปได้หรือไม่
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นเช่นไร พรรคพร้อมน้อมรับในคำวินิจฉัยเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ส่วนการพิจารณาในวาระที่ 3 ของรัฐสภาก็ชัดเจนเมื่อศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 11 มี.ค. ที่จะถึงนี้ ก็คงต้องทราบผลคำวินิจฉัยก่อน เมื่อทราบแล้วก็จะชัดว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนที่ฝ่ายค้านได้ยื่นความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประกอบในการพิจารณาวินิจฉัยและศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับไว้ประกอบการพิจารณาในสำนวน เรื่องนี้เป็นไปตามหลักการ ฝ่ายค้านสามารถทำได้เพราะศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบการไต่สวนข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีการส่งเข้าสู่สำนวน ศาลสามารถใช้มาประกอบพิจารณาในการวินิจฉัยได้เป็นไปตามหลักการวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ