ผบช.ก.ย้ำ "ตร.ทางหลวง" ลดความขัดแย้งกับ ปชช. ชี้เหตุจำเป็นไม่ยุบหน่วย "ตร.รถไฟ"
ยกคำร้องขอระงับปรับขึ้นค่า"รถไฟฟ้าสายสีเขียว"
ลงทะเบียน "ม33เรารักกัน" ทะลุ 8 ล้านคน
หนุ่มสุดช้ำ! มีชื่อเป็นผู้ต้องขัง
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ผบช.ก. ลงะนที่ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ ส.รฟ.หัวหิน กก.3 บก.รฟ. และสถานีตำรวจทางหลวงวังมะนาว จ.เพชรบุรี โดยมี พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. พ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง ผกก.3 บก.รฟ. ร่วมรับฟังคำชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจเยี่มมหน่วยครั้งนี้ เพื่อกำชับให้ตำรวจทางหลวง ลดปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยเน้นย้ำให้ความสำคัญไปที่เรื่องใบสั่งออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีการปรับเงินตามหน้าด่านต่างๆ ถือเป็นการช่วยการทุจริตของเจ้าหน้าที่ไปในตัว ส่วนการตั้งกล้องเพื่อตรวจจับความเร็ว ขอให้ไปตั้งตามจุดล่อแหลมที่เกิดอันตรายบ่อย เช่น ทางโค้งต่างๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นการลดอุบัติเหตุไปอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับจุดประสงค์ของการตั้งกล้องจับความเร็วของตำรวจนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องจำนวนค่าปรับ แต่ให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ ส่วนเรื่องอัตตราความเร็วของยานพาหนะบนท้องถนน ในอนาคตอาจต้องหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อกำหนดอัตราความเร็วใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ เป็นกฎหมายที่ใช้มานานมากแล้ว
ผบช.ก. ยังเน้นย้ำให้ตำรวจรถไฟ ให้บริการประชาชนประชาชนควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งเหตุอาชญากรรม และปัญหาอื่นๆ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการยุบหน่วยตำรวจรถไฟ นั้น โดยส่วนตัวมองว่า ตำรวจรถไฟยังคงต้องมีไว้ เพราะในอนาคตต้องรองรับรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากประเทศจีน ไปจนถึงประเทศมาเลเซีย เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการขนของเถื่อน อาวุธเถื่อน หรือยาเสพติด หากไม่มีตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟ ก็อาจเกิดช่องว่างให้กลุ่มคนร้ายลงมือได้ ถึงแม้ว่าจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยของเอกชนเข้ามาดูแลก็ตาม
