"อดีตประธานค้าปลีกไทย"ชี้ทางแก้วิกฤต"โชห่วย"

2021-03-11 14:40:25

"อดีตประธานค้าปลีกไทย"ชี้ทางแก้วิกฤต"โชห่วย"

Advertisement

"อดีตประธานค้าปลีกไทย" เสนอตั้ง "สภาเอสเอ็มอี” กู้วิกฤต "โชห่วย-ค้าปลีก" หลังโควิด-19

"สุชาติ" สั่งด่วนช่วยสาวโรงงาน 1,388 คนถูกเลิกจ้าง

ปปง.แถลงอายัดทรัพย์!"หลงจู๊-เสี่ยโป้"1.2 พันล้าน

"จเร ตร."จ่อเสนอ"บิ๊กปั๊ด"เชือด 253 ตร.เอี่ยวบ่อนพนัน


เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายวรวุฒิ อุ่นใจ อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวบรรยายในงานสัมมนา "จับสัญญาณธุรกิจโชห่วย หลังโควิดจะรุ่งได้อย่างไร" ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายวรวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อทั้งระบบ และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอีกประมาณ 6 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ดังนั้นผู้ประกอบการรายย่อยโชวห่วย จึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้อยู่ได้ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง ทั้งนี้มองว่าธุรกิจโชห่วยในวันนี้กับเมื่อ 30-40 ปีที่แล้วไม่แตกต่างมากนักเมื่อเทียบกับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่เปลี่ยนเป็นโมเดิร์นเทรดกันหมดแล้ว แต่ในประเทศไทยมีแต่จะลดจำนวนลงด้วยหลายปัจจัย เช่น คนรุ่นใหม่ไม่อยากสืบทอดธรุกิจครอบครัว ไม่มีการใช้เทคโนโลยีในการซื้อ-ขายมากนัก ร้านค้าปลีกจำนวนมากไม่มีระบบบัญชีที่ดี ทำให้ไม่สามารถคำนวณต้นทุนที่แท้จริงได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการไม่ยอมเปลี่ยนมายด์เซ็ทระบบความคิด ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ทำให้การขยับขยายทำได้ลำบาก เช่น การปรับเปลี่ยนการจัดวางสินค้าให้ต่อเนื่องอย่าให้ขาด เพิ่มความสะอาด จัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อให้รู้ว่าอะไรควรขายพ่วงกันเพื่อเพิ่มยอดซื้อ ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าครบจบในร้านเดียว ขณะที่สินค้าบางอย่างสามารถใช้เทคโนโลยีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเข้ามาช่วย เพื่อจำหน่ายในช่วงกลางคืน ซึ่งไม่จำเป็นต้องจ้างคนเฝ้าร้าน ส่วนกล้องวงจรปิด และระบบความปลอดภัยป้องกันสินค้าสูญหายก็จำเป็นต้องมี




อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรหาโอกาสในช่วงวิกฤต เช่นในปี 2540 ตนเป็นคนแรกที่ขายผ่านเว็บไซต์และเพิ่มสินค้าใหม่เติมเข้าไปในร้าน จากเดิมที่ขายเพียงเครื่องเขียนก็เพิ่ม ชา กาแฟ น้ำยาถูพื้น ซึ่งต่อมาสามารถทำยอดได้มากกว่าเครื่องเขียนด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับปี 2554 เกิดน้ำท่วมใหญ่ ตนเป็นเจ้าเดียวที่ใช้เรือส่งสินค้า ขณะเดียวกันประเมินแล้วว่าหลังน้ำลดเฟอร์นิเจอร์จะเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ตนจึงไปสต็อคไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นไปตามคาด คือ ขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้า และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จึงถือเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เช่นเดียวกับประเทศจีน ที่สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่นทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลบังคับใช้มาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ที่มีความเข้มงวด และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนภาคการผลิตในประเทศได้เดินหน้าผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


นายวรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราอย่าวิ่งตามลูกบอล เพราะเราไม่มีทางวิ่งไล่ทัน เราต้องวิ่งไปดักลูกบอล และรู้ว่าลูกบอลจะไปทางไหน เพราะนั่นเราจะเห็นโอกาส ซึ่งผู้ประกอบการต้องหมั่นศึกษาหาความรู้จากอินเตอร์เน็ต รีสกิล อัพสกิล ต้องระลึกเสมอว่าปีนี้เราจะรู้อะไรมากขึ้น ทำอะไรมากขึ้น E-Payment มาแน่ ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดส่งจะโตทั้งอุตสาหกรรม กลยุทธ์ KOL เปลี่ยนยอดไลค์เป็นยอดขาย พูดอะไรคนก็เชื่อ จะเป็นกองทัพนักขายช่วยแก้วิกฤตได้ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก สร้างโอกาส ติดอาวุธให้แต้มต่อโดยให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ เช่น เรื่องอัตราเงินกู้ของคนตัวเล็กที่แพงกว่าคนตัวใหญ่ เช่น แม่ค้า street food ดอกเบี้ยร้อยละ20 ต่อวัน หรือการผลักดันการขายออนไลน์ ส่งสินค้าขายออนไลน์ มีโควต้า ฟรีค่าส่ง เป็นต้น ที่ผ่านมานโยบายของเราไม่ให้ความสำคัญกับคนตัวเล็ก แต่ให้ความสำคัญกับคนตัวใหญ่ ทั้งที่คนตัวใหญ่โตยาก แต่การพัฒนาคนตัวเล็กให้สำเร็จ คนตัวใหญ่ก็จะสบายเพราะคนตัวเล็กก็คือลูกค้าของคนตัวใหญ่นั่นเอง


อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย และโชห่วย ซึ่งมีอยู่เป็นล้านแห่งทั่วประเทศ ควรต้องรวมตัวกันให้แน่น อย่าอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะโอกาสที่จะล้มมีสูง ดังนั้นจึงขอเสนอรัฐบาลให้จัดตั้ง สภาเอสเอ็มอี ขึ้นมา เพราะปัจจุบันแม้ว่าจะมีสมาคมเอสเอ็มอี สมาพันธ์เอสเอ็มอี ก็เป็นเหมือนคนตัวเล็กที่ไปแฝงอยู่กับสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นคนตัวใหญ่ ทั้งที่มีสมาชิกหลายล้านรายเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ แต่ศักดิ์ศรีเหมือนคนตัวเล็กที่ไม่มีเสียงส่งตรงถึงรัฐบาลว่าเราต้องการความช่วยเหลือ โดยหากทำได้จะเป็นโครงการที่ยั่งยืน เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้าง เราต้องมีแต้มต่อที่จะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ การจัดตั้งก็ขอให้ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับสภาหอกการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาดิจิทัล ที่มีเงินสนับสนุนทางกฎหมาย