น้ำตาตกกลางวงแถลง "บุ๋ม ปนัดดา" ร่ำไห้ขออภัย "จั๊กจั่น" สำนึกผิดสุดหัวใจ !! สะเทือนจิต "อาบี" รู้จักกัน 20 ปี ไร้ค่าไร้ราคาอย่างแท้จริง !!
ผิดมหันต์อภัยฉันเถิดหนา "บุ๋ม ปนัดดา" วอน "จั๊กจั่น" ยกโทษให้ พลาดพลั้งรายงานข่าวเท็จไปไม่เช็กข้อมูลให้ดี สะเทือนจิตใจ "อาบี" รู้จักกัน 20 ปี ไร้ค่าไร้ราคาอย่างแท้จริง !!
ไม่มีการแสดงใดๆ ทั้งนั้น นี่คือความจริง ความจริงที่ไม่มีวันตาย โลกใบที่สอง สาม หรือสี่ ไม่มีทั้งนั้น แม้แต่สาวที่ชื่อตาลก็ไร้ตัวตน งานนี้มีบุคคลเข้าไปโยงใยเกี่ยวข้องมากมาย จนแผ่ขยายเป็นดราม่าเกินกว่าจะอภัยตัวการได้ ส่งผลเสียหายทั้งครอบครัว "จั๊กจั่น" และ "เค วัฒนา" ล่าสุด "บุ๋ม ปนัดดา" เจ็บทั้งใจปวดร้าวทั้งความรู้สึก สะอึกเจอ "จั๊กจั่น" โทรหากลางวงแถลงข่าว ถึงกับร่ำไห้น้ำตาหลั่งริน เอ่ยปากรับผิดยินดีช่วยหากต้องการพี่คนนี้ขอเคียงข้าง
ออกมากล่าวคำขอโทษถึงสาว "จั๊กจั่น" ต่อหน้าสื่อมวลชนแล้ว สำหรับ "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" รวมถึงพูดคุยกับอีกฝ่ายและได้ขอโทษผ่านทางโทรศัพท์แล้ว เจ้าตัวก็ยังถือโอกาสนี้ชี้แจงกรณีธุรกิจสีเทาที่เป็นประเด็นด้วยเช่นกันว่า เธอไม่เคยพูดหรือให้ข่าวใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกเสียใจมากที่คนคุ้นเคยกันมานานกว่า 20 ปี อย่าง อาบี ทำกันได้ลง ซึ่งคุณบุ๋มได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ว่า
"สภาพจิตใจตอนนี้ไม่โอเคเลยค่ะ ก็...พยายามขอโทษน้องนะคะ ในทุกๆ ทาง ในแบบที่เราทำได้ เพราะว่าเรารู้สึกผิดจริงๆ แต่ด้วยคำพูดที่มันพูดทางคลับเฮ้าส์หรืออะไรก็ตามที่มันแบบใส่กันทีละหลายคน มันก็เลยเป็นว่าน้องเขาอาจจะรู้สึกว่าเราขอโทษแบบไม่จริงถ้า"
"ถ้า...รู้จักบุ๋มจริงๆ คนที่ทำงาน คือบุ๋มเป็นคนที่พยายามอยากจะมองแค่ในหลายๆ จุด ทีนี้ในกลุ่มเมื่อวานก่อนที่น้องจะเข้ามา มันมีเรื่องหนึ่งที่เขาพูดถึงความป่วยอาการทางจิตหรืออะไรก็ตาม เราก็เลยบอกว่า เฮ้ย! ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ระวังกันนิดหนึ่งเพราะมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ แต่กลับกลายเป็นคนมองว่าบุ๋มไปเข้าข้างอาบี โดยที่ทำไมไม่เห็นใจจั๊กจั่นบ้าง จั๊กจั่นเองก็ออกมาบอกว่าแล้วถ้าหนูฆ่าตัวตายบ้างล่ะ คือไม่ได้มีใครอยากให้ใครเป็นอะไรทั้งสิ้น และก็ยิ่งจั๊กจั่นเองเจอมาอย่างนี้ เจอมาหนักกว่าที่ใครต่อใครเจอมาอยู่แล้ว ดังนั้นกับจั๊กจั่นเรายกไว้ก่อน เราคุยกันในกรณีแรกเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าไม่ได้แคร์จั๊กจั่นหรือไม่ได้ห่วงเลยในมุมมองของจั๊กจั่น มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ"
เจตนาของพี่บุ๋มคืออะไรในตอนนั้น ?
"แค่พูดให้มองหลายๆ ด้าน ในฐานะคนที่ทำคดีหลายๆ มุม เราเองไม่ได้เป็นที่อยู่ข้างใน และเราเองมาเจอแบบนี้เรายิ่งต้องคิดให้รอบขึ้นอะไรอย่างนี้เป็นต้นก็แค่นั้นเอง เพียงแต่ว่าตอนนั้นเหมือนรอจังหวะการเข้ามา แต่มันก็ไม่นึกว่าคนจะเข้ามาในคลับเฮ้าส์กันเร็วขนาดนี้ เอ่อ...บุ๋มพลาดเองที่ไม่พูดแทรกพี่หนุ่ม ไม่พูดแทรกปุ๊ก ว่าในความเป็นจริงเราขออธิบายแบบนี้ๆ แต่บุ๋มกลับอึ้ง เพราะได้ยินเสียงสั่นเครือของจั๊กจั่น และมันทำให้บุ๋มแบบ บุ๋มไปไม่เป็นเลย และกลายเป็นว่าเสียงร้องไห้ของน้องมันติดหูบุ๋มจนถึงเช้า จนเรารู้สึกแย่ แย่กับการนำเสนอข่าวของเราที่ทำให้น้องเสียใจมากขนาดนี้
"แต่เราก็มานั่งนึกว่าเราไม่ได้อะไรกับน้องเลย ไม่โทษน้อง ไม่อะไรน้อง เพราะเราทำตัวเราเอง เพราะว่าเราเป็นคนอ่านข่าวเขาจริงๆ และเราก็รู้สึกผิดจริงๆ เราอยากรับผิดชอบตรงนี้จริงๆ ก็เลยโพสต์ข้อความเมื่อประมาณตี 3 ไปรอบหนึ่ง และก็ด้วยความที่ความรู้สึกมันเยอะไปหมด มันก็เลยรู้สึกว่า...ไม่ได้ เลยคุยกับทางรายการและก็ขอโทษน้องผ่านรายการ เพราะเราถือว่าเราได้อ่านข่าวน้องผ่านหน้ารายการ ความรู้สึกหนึ่งคือเจ็บ เพราะอาบีเป็นคนที่รู้จักเกือบ 20 ปี มันไม่นึกหรอกว่าใครคนหนึ่งมันจะทำเราขนาดนี้ ส่งข้อความมาเยอะมาก"
"แต่บุ๋มอยากจะบอกว่าถ้าไปย้อนดูดีๆ วันจันทร์เราพูดถึงกรณีน้องก็จริง แต่บุ๋มบอกแล้วนะว่าไม่ให้โพสต์เขียนชื่อน้อง เพราะว่ายังไม่มีใครรู้ความจริงอะไรเลย วันอังคารบุ๋มไม่ได้จัดรายการ แต่น้องได้มีการให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าว หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไร อาบีส่งข้อความอะไรมา หรือคนในส่งอะไรมา บุ๋มไม่มีเอามาพูดเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่า คำที่ออกจากปากน้องคือที่สุด คำของคุณเคพูดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาคือที่สุด อ่านตามตรงนั้นเป๊ะๆ ก็เลยยังงงอยู่ตรงว่าทำไมถึงมาหาว่าบุ๋มไปกล่าวหาเขาเรื่องธุรกิจสีเทา เพราะหลังจากวันพุธยังไม่ได้จัดรายการ ยังไม่มีสื่อไหน ยังไม่มีอะไรให้บุ๋มโพสต์หรือเขียนเลยนะคะ"
คิดว่าเราพลาดตรงไหน ?
"บุ๋มคิดว่านักข่าวที่คุยกันในนี้เราโดนหมดนะ โดนข้อมูลส่งด้วยกันหมด เราโดนกันหมด แต่บุ๋มจะไม่โทษใคร เพราะสิ่งที่เราพูดอะไรออกไปเราเองก็ต้องคัดกรอง แต่อยากจะให้เปิดใจกับบุ๋มอย่างหนึ่ง อย่างเรื่องของธุรกิจสีเทา (เปิดแชต) "ธุรกิจสีเทาของผู้ชายมีมูลไหม?" บุ๋มก็ "อ้าว! อาบีเป็นคนบอกหนูเรื่องโต๊ะบอลไม่ใช่เหรอ" คือเขาเป็นคนบอกเรา เราไม่ได้เป็นคนพูดกับคนอื่น แต่กลับกลายเป็นว่าทำไมกลายเป็นเราเป็นคนพูดกับคนอื่น เพราะ...มันมีแชตอื่นที่เขาไปบอกชาวบ้านว่าบุ๋มเป็นคนจะไปแจ้งความตำรวจเรื่องธุรกิจโต๊ะบอล ซึ่งบุ๋มคิดว่าน้องคงได้รับข้อความที่แชร์กันอย่างนี้และไปถามน้อง จนน้องเข้าใจผิดว่าบุ๋มเป็นคนพูด"
เราได้มีโอกาสเคลียร์กับอาบีแล้วหรือยัง ?
"บุ๋มส่งข้อความไปถามอาบีค่ะ อาบีไม่ตอบบุ๋มเลยหลังจากที่ทุกอย่างมันเปิดออกมา หลายวันแล้วค่ะ และก็บุ๋มมีข้อมูลทุกอย่างก็จริง แต่บุ๋มไม่แตะเลย ไม่เคยเอาออกมาเลยนะคลิปเสียงหรืออะไรก็ตาม ไม่มีเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่าใช่ มันมีประเด็นนี้เกิดขึ้นจริง แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้น เราทำข่าวดารา คำพูดของดาราเป็นสิ่งที่เราต้องไปเอาจากปากเขา ความเป็นจริงมันอยู่ที่นั่น ไม่ใช่ไอสิ่งที่เรากำลังพูด แต่ถามว่าเมื่อมีประเด็นแล้วเราไม่พูดใช่ไหม มันก็ไม่ใช่ นั่นคือการทำข่าว เพียงแต่ไม่เป็นไรถ้าเกิดคนอื่นจะหาว่าบุ่มเป็นคนเริ่ม ไม่เป็นไร หรือจะหาว่าบุ๋มเป็นคนใส่ความน้อง ไม่เป็นไร บุ๋มยอมรับผิดทุกอย่าง จะผิดจริงไม่ผิดจริง บุ๋มยอมรับผิดหมดทุกอย่าง เพราะบุ๋มรู้สึกแย่ บุ๋มรู้สึกว่าคนคนหนึ่งที่กำลังจะแต่งงานและต้องมาเจออะไรแบบนี้เขาคงรู้สึกแย่กว่าบุ๋มเยอะ"
"ดังนั้น บุ๋มอยากจะขอโทษน้องจริงๆ ด้วยความจริงใจ จากหัวใจเลยค่ะ คือไม่มีความตั้งใจหรือเจตนาที่จะแบบ...ทำร้ายน้องแบบนี้เลย"
กลัวไหมว่าจั๊กจั่นจะไม่รับคำขอโทษ ?
"ไม่เป็นไรมันเป็นสิทธิ์ของน้องค่ะ และบุ๋มก็ผิด ยอมรับผิดเองจริงๆ หลายคนก็บอกว่าก็ทำข่าวกันเหมือนกันทุกช่อง คนอื่นก็พูดเหมือนกันทำไมบุ๋มโดนอยู่คนเดียว บุ๋มไม่ทราบ แต่ถ้าโซเชียลบอกว่าบุ๋มผิด บุ๋มก็โอเค บุ๋มยอมรับผิดด้วยนะ"
จั๊กจั่นบอกว่าตัวเธอเองไม่ได้ติดใจ แต่อยากให้พีุ่บุ๋มขอโทษคุณเคและครอบครัวเขามากกว่า ?
"ใช่ค่ะ ในรายการเมื่อสักครู่นี้บุ๋มก็ถือว่าบุ๋มใช้พื้นที่ของตกมันส์บันเทิง เพราะว่าบุ๋มใช้พื้นที่นั้นในการทำข่าวน้อง ก็เลยขอใช้พื้นที่ตรงนั้น และก็อยากขอใช้โอกาสตรงนี้อีกครั้งนี้เพื่อขอโทษทั้งตัวน้องจั๊กจั่น ครอบครัวของน้องจั๊กจั่น คุณเค เพื่อนๆ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงครอบครัวของคุณเคด้วยนะคะที่เข้าใจผิด หรือเข้าว่าบุ๋มมีเจตนาที่ไม่ดีกับครอบครัว ยังไงบุ๋มขอโทษ ขอโทษจริงๆ ไม่มีนะคำว่าธุรกิจสีเทาไม่ได้มาจากบุ๋ม หรือถ้าหากเข้าใจผิด และอยากจะให้บุ๋มไปเจอและขอโทษอีกครั้งบุ๋มก็ยินดี ยินดี ทำก็คือทำ ไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าไม่และเข้าใจผิดว่าบุ๋มทำ บุ๋มก็ขอโทษ เพราะว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมันจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา บุ๋มคิดว่าเมื่อมันเข้าใจผิดไปแล้ว ขอโทษคือสำคัญที่สุด"
เราคิดว่าเพราะอะไรเขาถึงใช้เราเป็นเครื่องมือ ?
"เขาไม่ได้ใช้บุ๋มคนเดียว สื่อหลายๆ สื่อก็ได้รับข้อมูลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าสิ่งที่บุ๋มรู้สึกแย่คือบุ๋มรู้จักเขามานานมาก ความสัมพันธ์ 20 ปี มันไม่มีค่าอะไรเลยเหรออาบี บุ๋ม...เสียใจที่ เพื่อนในวงการมันไม่ควรทำร้ายกันอย่างนี้ และพี่ไม่ควรทำร้ายน้องแบบนี้ ยิ่งใกล้ชิดน้องมากขนาดนี้พี่ต้องรู้สิว่าน้องนิสัยดีขนาดไหน น้องทำงานการกุศล น้องช่วยคน ช่วยหมา ช่วยแมวขนาดไหน น้องไม่ควรเจอแบบนี้ แต่ ณ วันนั้นบุ๋มโง่เองที่แบบ เฮ้ย! ก็เขาเล่นมาหาถึงที่ และด้วยข้อมุลของคุณ อื้อหือ...คือมันไม่ใช่แค่คำสองคำ หรือภาพ หรือการที่เขาแค่มาเจอ (เปิดแชท) คือเขาเองก็เป็นผู้ใหญ่ แต่บุ๋มก็เอ๊ะเหมือนกัน บุ๋มถึงได้ไม่เอาข้อมูลที่เขาส่งให้ทั้งหมดขึ้นมาเปิด และบุ๋มก็บอกด้วยว่าบุ๋มขอสัมภาษณ์จั๊กจั่น ขอคำพูดจากน้อง ขอคำพูดจากคุณเค และนั่นคือสิ่งที่จบ ไม่มีอะไรจากในนี้หลุดไปเลย"
ตอนนี้เรายังเห็นเขาเป็นพี่เป็นเพื่อนอยู่ไหม ?
"ถ้าเพื่อนทำกันอย่างนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้วมั้ง แต่แค่อยากให้เขานอกเหนือจากรับผิดเมื่อสักครู่นี้ที่เห็นเขาโพสต์ อยากให้เขาไปรักษาจริงๆ นะ การสร้างเรื่องได้ขนาดนี้บุ๋มไม่เคยเจอ"
เราไม่ได้ติดใจใช่ไหมโพสต์ขอโทษของเขา ก็ไม่ได้มีการขอโทษเราด้วย ?
"ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอาบีขอโทษใครก็ไม่เป็นไร แต่ถามว่าบุ๋มโกรธไหม โกรธสิ แต่ไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว"
โดนขนาดนี้รู้สึกเสียหน้าไหม ?
"ไม่เสียหน้าค่ะ แต่เสียใจมากกว่า เราไว้ใจคนนะ แต่การไว้ใจของบุ๋ม บุ๋มก็มีเอ๊ะ! ถูกไหม ถึงได้ไม่มีข้อมูลที่คุณเห็นทั้งหมดออกมาจากบุ๋ม เพราะบุ๋มรู้สึกว่าบุ๋มเป็นแค่นักข่าวบันเทิง บุ๋มแค่นำเสนอประเด็นขึ้นมา เมื่อดาราให้สัมภาษณ์มันก็ต้องใจ แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นความเข้าใจผิดที่คนบอกว่าบุ๋มต้องเป็นตัวเริ่ม ไม่ใช่นะ ถ้าเกิดดูดีๆ บุ๋มไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่ก็ไม่ขอปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น ขอน้อมรับความผิดแต่โดยดี"
ตอนที่เราได้รับข้อมูลครั้งแรก เราได้ติดต่อจั๊กจั่นไหม ?
"โทรค่ะ แต่ว่าน้องถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ แต่อีกวันหนึ่งตอนที่น้องมา จังหวะรายการไม่ดีเพราะว่าเป็นรายการสด ก็เลยได้คำสัมภาษณ์ของน้องและเราก็อ่านตามที่น้องให้สัมภาษณ์ ทุกอย่างก็จบอยู่แค่นั้น ไม่ได้มีต่ออะไรเลยนะ"
กังวลไหมว่าเรื่องนี้จะทำให้คนหมดความเชื่อมั่นในตัวเรา ?
"ถ้าเหตุการณ์เดียวและทำให้ทุกคนหมดความเชื่อมั่นในตัวบุ๋ม ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าวันหน้าอยากจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นหรืออะไร บุ๋มยินดี ไม่ต้องมาแบบคาดคั้นจากบุ๋มหรืออะไรก็ได้ แต่บุ๋มก็ยังทำในสิ่งที่บุ๋มทำ คือการช่วยเหลือคน ทำเคสต่างๆ เหมือนเดิม ถอยไม่ได้ค่ะ คนละเรื่องกัน"
เรื่องนี้ให้บทเรียนเรา ?
"ทำงานอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี เราก็ไม่นึกหรอกเนอะว่าเราจะเจอแบบนี้ และก็ไม่นึกหรอกว่าเราจะเจออะไรที่เป็นภารตะเรื่องราวที่จะทำร้ายชีวิตคนคนหนึ่งได้ขนาดนี้ มันก็เป็นบทเรียนเราเหมือนกันค่ะ แต่ถามว่าจะไม่ให้ทำหน้าที่ต่อไปเลยไหม คงไม่ใช่ แต่บุ๋มจะระวังมากขึ้น จะพยายามทำงานให้ดีกว่านี้"
มีอะไรอยากบอกกับโซเชียลบ้าง ?
"คุณมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ทำได้เต็มที่เลยค่ะ และบุ๋มขอน้อมรับทุกคอมเมนต์ ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้เข้าใจว่าอะไรที่ทำและอะไรที่ไม่ได้ทำ บุ๋มชัดเจนตรงนี้เสมอ"
ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าไม่มีตาลตัวจริง ?
"ณ วันนี้ต้องตาลทิพย์แล้วค่ะ และก็ไม่ว่าบุ๋มจะทำให้ใครรู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจ บุ๋มขอโทษอีกครั้งนะคะ ขอโทษจากใจค่ะ"
หลังให้สัมภาษณ์จบ จั๊กจั่น อคัมย์สิริ ได้โทรศัพท์เข้ามาหา บุ๋ม ปนัดดา ซึ่งในบทสนทนาดังกล่าวเจ้าตัวก็ได้กล่าวคำขอโทษต่อนางเอกสาวและครอบครัวของเธอ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"(ร้องไห้) พี่ขอโทษนะจั่น พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้พูดอะไรอย่างนั้นเลย พี่เสียใจมากที่ทำให้หนูเสียใจ หนูคงรู้สึกแย่กว่าพี่เยอะ (สะอื้น) พี่...ไม่ได้เชื่อ พี่ไม่ได้เอาข้อมูลเขามาออกรายการเลย พี่ไม่รู้ว่าหนูไปฟังอะไร แต่พี่อยากโทรหาหนูมาก พี่ขอโทษ พี่รักหนูมากเหมือนเดิม ฝากขอโทษครอบครัวหนูกับครอบครัวของคุณเคด้วยนะ พี่รู้สึกแย่ พี่ก็ช็อกเหมือนกัน เรารู้จักกันมานานทำไมเขาทำอย่างนี้ เป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ ทำไมทำน้องขนาดนี้"
สบายใจขึ้นไหมได้คุยกับน้องแล้ว ?
"สบายใจเยอะมาก มากๆ โล่งมาก ปลดล็อกเลย คือน้องบอกว่าเขาเข้าใจบุ๋ม แต่เขาไม่พร้อมเท่านั้นเองอ เพราะว่าเมื่อคืนเขาเสียใจมาก และก็...เอ่อ ไม่อยากให้จบแค่นี้ อยากให้มีการดำเนินคดีกับอาบี ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวก็ช่วยน้องเต็มที่ เพราะบุ๋มเองก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน คนคนหนึ่งไม่ควรเจออะไรอย่างนี้ ยังไงก็สัญญาค่ะว่าจะทำให้ดีที่สุด"
น้องไม่โกรธอะไรเราแล้ว ?
"ยิ่งกว่าหายโกรธค่ะ น้องร้องไห้หนักมาก เขาเองก็เสียใจว่าทำไมเขาถึงทำให้ความสัมพันธ์ของบุ๋มกับจั๊กจั่นต้องแตกแบบนี้ ไม่ดีแบบนี้ คือมันไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะถ้าพูดกันตรงๆ ในมุมเบื้องหลัง บุ๋มกับน้องเรามีหลายเคสมากที่เราช่วยเหลือกันในเรื่องของหมาแมว เรื่องกิจกรรมต่างๆ เราทำด้วยกันมาตลอด และหลังจากนี้ไปเราก็จะแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเดิม บุ๋มจะยืนเคียงข้างน้องค่ะ"