นายกฯสั่ง จนท.เร่งแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ

2021-03-13 13:05:23

นายกฯสั่ง จนท.เร่งแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ

Advertisement

นายกฯห่วงปัญหาหมอกควันภาคเหนือ กำชับ จนท.เร่งช่วยเหลือ เล็งหารือประเทศเพื่อนบ้านลดจุดความร้อนที่เกิดขึ้น

น้ำตาตกกลางวงแถลง "บุ๋ม ปนัดดา" ร่ำไห้ขออภัย "จั๊กจั่น" สำนึกผิดสุดหัวใจ !!

อดีต ผจก. ขอโทษ “จั๊กจั่น – เค” เผยที่ทำไปเพราะห่วงมาก พร้อมรับผิดทุกอย่าง

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมติดตามสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือด้วยความห่วงใย พร้อมสั่งการทุกหน่วยราชการทั้งทหาร พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งบูรณาการความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเร่งด่วน สถานการณ์หมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงสภาพอากาศที่แห้งแล้งรวมทั้งอิทธิพลจากกระแสลมประจำฤดูกาล แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง แก้ลดจุดความร้อนที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทำงานด้วยความระมัดระวัง ลดอุบัติเหตุหรืออันตรายที่จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งหน่วยราชการทุกพื้นที่ ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์รายวันได้ทุกช่องทาง

นายอนุชา กล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่งในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2564 เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานเฉพาะของพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เน้นการป้องกันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ลดปริมาณเชื้อเพลิงโดยการเก็บมาใช้ประโยชน์ เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ผลักดันเครือข่ายภาคประชาชนและจิตอาสาพระราชทาน ลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับชุมชน และจัดตั้งคณะกรรมการ ศูนย์บัญชาการระดับจังหวัด เพื่อรับมือสถานการณ์ จัดชุดปฏิบัติการเข้าเผชิญเหตุและควบคุมสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเจรจากับประเทศอาเซียนเพื่อลดมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนอย่างยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยขอหารือเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาด้วย สำหรับมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ปลูกอ้อยอย่างเข้มงวดนั้น สามารถลดการเผาในพื้นที่ปลูกอ้อยได้ร้อยละ 80 ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 โดยกำหนดให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกินร้อยละ 20 ต่อวัน และจะลดลงให้เหลือร้อยละ 0-0.5 ต่อวัน ในปีถัดไป เพื่อให้อ้อยไฟไหม้หมดไปอย่างเด็ดขาดและยั่งยืน รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม แผนที่พื้นที่แปลงเกษตรที่มีการ “เผาซ้ำซาก” โดยระบุพิกัดที่ชัดเจน เพื่อใช้ในการกำกับติดตาม และการสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ภาครัฐได้ดำเนินการตามมาตรการบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการจุดความร้อนในพื้นที่ ทำแนวกันไฟ เพิ่มความชื้นในพื้นที่ด้วยฝายชะลอ ส่งเสริมการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรแทนการเผา รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาสุขภาพจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งหลายจังหวัดในขณะนี้ได้ออกประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2564 ด้วยแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย เด็กเล็ก ขอให้หลีกเหลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือส่วนราชการด้วย