ช่องว่างระหว่างวัยมีส่วนจบสัมพันธ์สามี-ภรรยา “นาย ชนุชตรา” เปิดใจน้ำตาคลอหลังเลิก “เคลลี่ ธนะพัฒน์” ยืนยันชัดไร้มือที่ 3 รับใจหวิว - ขาอ่อนตอนฝ่ายชายมาขนของ
เรียกได้ว่าเป็นข่าวคราวรักสะบั้นที่ทั้งช็อกวงการและแฟนคลับไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการเลิกรากันระหว่างคู่สามีภรรยาต่างวัยอย่าง "เคลลี่ ธนะพัฒน์" และนักแสดงสาวรุ่นน้อง "น้องนาย ชนุชตรา สุขสันต์" ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านหนุ่มเคลลี่ก็ได้ออกเปิดใจหลังจากที่จบสัมพันธ์ชีวิตคู่กว่า 2 ปี กับน้องนายไปก่อนหน้าแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าการเลิกรากันนั้นเป็นเรื่องของคนสองคนไม่มือที่ 3 แต่ทว่าก็ยังมีบางกระแสที่เมาท์เรื่องมือที่ 3 อยู่
และล่าสุด (19 มี.ค. 2564) "นาย ชนุชตรา" ก็ได้มีโอกาสออกมาชี้แจงอีกครั้ง เพื่อย้ำชัดๆ ว่าการเลิกรากันนั้นคือเรื่องของคน 2 คน ไม่มีมือที่สาม โดยงานนี้น้องนายก็ได้เผยว่า… "เรื่องของนายกับพี่เคลลี่ก็เป็นเรื่องจริงตามที่พี่เคลลี่พูดเลยค่ะ ตอนนี้พี่เคลลี่ก็ได้ย้ายออกจากบ้านแล้ว"
เราได้ดูที่พี่เคลลี่สัมภาษณ์หรือยัง ?
"ดูแล้วค่ะ ความรู้สึกเราก็เสียใจทั้งคู่ค่ะ แต่พูดถึงว่าเสียดายมั้ยเราก็ทำกันอย่างเต็มที่แล้วค่ะ เราแยกกันอยู่ 3 เดือนแล้ว นายก็ย้ายห้องนอนไปนอนกับคุณแม่เพราะก่อนเราจะแต่งงานกันนายก็นอนกับคุณแม่มาตลอดอเราก็ยังมีที่ปรึกษาเป็นคุณแม่ คุณแม่ก็คอยสอนเราในเรื่องของการใช้ชีวิต"
วันที่พี่เคลลี่เก็บเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านเราไป เรารู้สึกใจหายมั้ย ?
"วันนั้นนายถ่ายละครพอดีค่ะ นายเลยไม่ได้อยู่ ใจหาย พอกลับมาบ้านแล้วไม่มีของๆ เค้าแล้วก็รู้สึกหวิว ขาอ่อนค่ะ เพราะเราเคยอยู่ด้วยกันมา"
ฟางเส้นสุดท้ายที่เราไปต่อกันไม่ได้คือ ?
"เรารับรู้ปัญหาของเรามาอยู่แล้วค่ะ และก็ได้มีการตกลงกันว่าเราถอยออกมาคนละก้าวดีกว่าเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่มีกันมา ถอยออกมาจากความเป็นสามีภรรยากัน มาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ความสัมพันธ์จะได้อยู่ต่อไปไม่ขาดค่ะ"
ที่บอกว่าต้องถอยออกมา ปัญหามันต้องใหญ่มากๆ ?
"มันเป็นปัญหาที่มีมาเรื่อยๆ ค่ะ"
ปัญหาหลักมาจากอะไร อายุ ทัศนคติ หรืออะไร ?
"จริงๆเรื่องช่องว่างระหว่างวัยมีส่วนด้วยค่ะ ความคิด ทัศนคติ การใช้ชีวิตของเรา เราโตมาต่างครอบครัว แล้ววันนึงมาอยู่ด้วยกันทำให้เราได้เรียนรู้กันค่ะ"
ก่อนที่จะตัดสินใจมาคบกันเราไม่ได้มองในส่วนตรงนี้เลยหรอ ?
"ตอนที่เป็นแฟนกันเราก็มองในส่วนของความรัก เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แต่พอเรามาเป็นสามีภรรยากันเราได้ใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ชั่วโมง มันจะมีบางจุดที่เราไม่เข้าใจกัน ใช้ชีวิตไม่ตรงกันค่ะ เราพยายามปรับมาตลอดค่ะ ปรับกันทั้งคู่"
สุดท้ายเลยเลือกทางออกกันแบบนี้ ?
"ใช่ค่ะ"
ถ้าย้อนกลับไปได้ เราอยากศึกษาเรื่องพวกนี้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจแต่งงานมั้ย ?
"ถ้าย้อนกลับไปได้ขออยู่แบบที่เป็นทุกวันนี้ดีกว่าค่ะ เราทำกันดีที่สุดแล้ว ไม่รู้สึกเสียดายอะไร แต่เสียใจที่ไม่มีเราอยู่ด้วยกันแล้ว"
เราได้ปรึกษาครอบครัวก่อนตัดสินใจแบบนี้ยังไงบ้าง ?
"ปรึกษาครอบครัวตลอด ปรึกษาคุณแม่ตลอด เค้าก็สอนให้เราอดทน พอสุดท้ายเค้าก็ยอมรับการตัดสินใจของเรา"
มีไปร้องไห้กับคุณแม่มั้ย ?
"มีค่ะ ทั้งนายและพี่เคลลี่เลยทั้งคู่เลย คุณแม่ก็รักพี่เคลลี่เหมือนลูกเลยค่ะ"
สภาพจิตใจเราตอนนี้เป็นยังไง ?
"ก็เสียใจอยู่แต่ก็โอเคขึ้นในระดับนึงแล้วค่ะ นายโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนๆ อยู่เคียงข้างค่ะ"
เพราะเรื่องไม่มีน้องทำให้เราเลิกกันด้วยมั้ย ?
"ไม่มีส่วนค่ะ เพราะอย่างที่ทราบคือนายแต่งงานแล้วก็อยากมีลูกเลย"
เรื่องมือที่สาม ?
"เรื่องมือที่สามเราสองคนไม่มีเลยค่ะ เรากับพี่เต้ เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันและรู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้ว เราฟอลโล่กัน นายกดไล้ค์ทุกคนและคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจทุกคนทั้งเพื่อนชายเพื่อนหญิงมาตลอดค่ะ"
พี่เคลลี่รู้ใช่มั้ยว่าเรารู้จักพี่ "เต้ วิทย์สรัช" มานานแล้ว?
"รู้จักค่ะ"
อย่างที่พี่เคลลี่มีข่าวกับ "พี่แคทรียา อิงลิช" ?
"พี่เค้าถ่ายละครด้วยกัน เค้าก็สนิทกัน หนูก็เชื่ออย่างที่พี่เค้าบอกตั้งแต่แรกว่าเค้าถ่ายละครด้วยกันและสนิทกันค่ะ ถามว่าได้ถามถึงเรื่องนี้มั้ย คือไม่มีค่ะ"
ยืนยันว่าไม่มีเรื่องมือที่ 3 ?
"ไม่มีค่ะ ที่ผ่านมาเราเชื่อใจกันมาตลอด พี่เคลลี่ไม่เคยทำอะไรให้นายรู้สึกไม่เชื่อใจค่ะ ถ้าเลิกกันไม่ใช่เรื่องของมือที่สามแน่นอน เป็นเรื่องของเราสองคนมากกว่า"
เรื่องเรือนหอเราต้องจัดการกันยังไง ?
"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของนายและครอบครัวอยู่แแล้ว พอพี่เคลลี่แต่งงานเข้ามาที่บ้านนายแล้วเค้าก็ต่อเติมในส่วนของห้องฟิตเนสค่ะ"
จะแบ่งทรัพย์สินกันยังไง ?
"ไม่มีค่ะ เพราะเราไม่ได้จดเบียนกันด้วยค่ะ"
คือพี่เคลลี่มอบทั้งหมดให้เรา ?
"เป็นห้องฟิตเนสของพี่เคลลี่เค้า เครื่องฟิตเนสก็ยังอยู่ที่บ้านนาย คือของๆ เค้ายังขนออกไปไม่หมดค่ะ ยังมีบางส่วนที่เหลืออยู่"
เรื่องทรัพย์สินเงินทองไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใช่มั้ย ?
"ไม่มีเลยค่ะ"
เรื่องระยะเวลาคิดมั้ยว่าจะออกมาพูดหรือปล่อยให้เงียบหายไป ?
"พอเราพูดเหมือนยิ่งตอดย้ำความรู้สึกของเรา เหมือนแผลเรายังไม่หายดีค่ะ"
พอได้เห็นของๆ เค้าในบ้านเรามีผลต่อความรู้สึกมั้ย ?
"มีผลค่ะ เพราะเราก็ยังรู้สึกอยู่ และยังมีความรักอยู่ พอเราเข้าไปเจอของๆ เค้าเราก็ยังสะเทือนใจค่ะ
เรียกว่าความรักยังคงเหลืออยู่ ?
"ยังอยู่ค่ะ"
หลังจากมีข่าวออกมาเราได้คุยกับพี่เคลลี่บ้างมั้ย ?
"ส่วนใหญ่พี่เคลลี่คุยกับคุณแม่ค่ะ"
ถ้าพี่เคลลี่ดูอยู่อยากบอกอะไร ?
"อยากบอกว่าขอบคุณสำหรับ 5 ปีที่ผ่านมาก ขอบคุณที่ดูแลหนู ขอบคุณที่มาเป็นความรักของหนู หนูก็อยากให้พี่เคลลี่ดูแลสุขภาพ อย่านอนดึก อยากบอกว่าน้องคนนี้ยังเป็นครอบครัวของพี่เสมอค่ะ"
อนาคตเป็นไปได้มั้ยที่จะกลับมาเหมือนเดิม ?
"นายก็ไม่ทราบเหมือนกันก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ"
ยังเจอหน้ากันได้มั้ย ?
"ได้ปกติค่ะ"
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีคู่รักเลิกเงียบคือเรา ?
"ทุกอย่างเราปรับจูนกันอยู่แล้ว เราอาจจะมีปัญหาในช่วงนั้นอยู่แล้ว เราค่อยๆ ปรับความเข้าใจตลอดค่ะ"
สภาพจิตใจมีผลต่อการทำงานมั้ย ?
"ไหวค่ะ ก็พยายามไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน"
ยังไม่พร้อมเปิดเรื่องความรัก ?
"ยังค่ะ โฟกัสที่งานค่ะ"
หลังจากผ่านเรื่องนี้ทัศนคติเรื่องความรักเปลี่ยนไปมั้ย ?
"เปลี่ยนค่ะ คือชีวิตคู่ความรักอย่างเดียวไม่พอค่ะ ต้องมีอีกหลายอย่าง ความเข้าใจ ความคิดเห็นที่ตรงกันค่ะ"
ในอนาคตเราต้องมองเรื่องช่องว่างระหว่างวัยด้วยมั้ย ?
"ยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลยค่ะ ลุยหน้าทำงาน ทำธุรกิจต่อเต็มที่"
เราให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง ?
"ส่วนใหญ่คนรอบข้างให้กำลังใจ มีผู้ใหญ่ เพื่อนๆที่คอยให้กำลังใจ คอยอยู่ข้างๆ ทำให้เรารู้สึกโอเคขึ้นมากเลย ก็ขอบคุณแฟนๆที่เป็นกำลังใจให้เราสองคน ขอบคุณจากใจเลยค่ะ"
ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : chanuchtra