ตร.แจ้ง 7 ข้อหาหนัก "ม็อบ" รื้อสิ่งกีดขวาง-เผารถ ตร. วอนโซเซียลล่า "มือขว้างระเบิด"
"องค์กรวิชาชีพสื่อฯ"แถลงไม่เห็นด้วยกับการก่อความรุนแรง
โพลชี้ ปชช.หนุนใช้ ก.ม.คนชักใย"ม็อบ"ทำลายชาติ
สรุป"ม็อบ 20 มีนา"ปะทะ ตร.ได้รับบาดเจ็บ 33 ราย
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ภ.2 แถลงสรุปเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่ม REDEM กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ที่บริเวณ ถ.ราชดำเนิน เมื่อชั่วค่ำวานนี้ โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากกรณีกลุ่ม REDEM ประกาศผ่านโลกโซเชียลนัดหมายให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 18.00 น.-21.00 น. กลุ่มศิลปะปลดแอก FreeArts เวลา 18.30 น. และกลุ่มเพื่อนอานนท์ เวลา 19.19 น. โดยไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีดังนี้
- 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าชุมนุมใน 2 พื้นที่ คือ บริเวณท้องสนามหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
- 17.35 น. ผกก.สน.ชนะสงคราม ประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฏหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ
- 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรื้อสิ่งกีดขวางแนวที่ 1 บริเวณสนามหลวง
- 18.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรื้อตู้คอนเทนเนอร์ โดยใช้เชือกดึงเพื่อเปิดทางเข้าชั้นในเขตหวงห้าม
- 18.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมรื้อต้อนคอนเทนเนอร์อีกหนึ่งตู้เพื่อเปิดช่อง พยายามบุกรุกเข้าในเขตหวงห้าม
- 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศเตือนผู้ชุมนุม ให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของ และพยายามเข้าพื้นที่หวงห้าม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องฉีดน้ำเพื่อนเตือนผู้ชุมนุม
- 19.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ตำรวจควบคุมฝูงชนผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่ท้องสนามหลวง
- 20.00 น. เจ้าหน้าที่รักษาพื้นที่ท้องสนามหลวงไว้ได้ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวไปตามจุดต่างๆ เช่น สะพานปิ่นเกล้า สี่แยกคอกวัว
- 21.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มจุดเพลิงบริเณต่างๆ เช่น ถนนราชดำเนิน หน้ากองสลาก สนามหลวง ด้านหลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทุบทลายเผารถเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- 00.30 น. เจ้าหน้าสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทุกพื้นที่
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ชุมนุม REDEM อ้างว่าไม่มีแกนนำ แต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงมีแกนนำตามปกติ แต่ไม่ปรากฏตัว ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประกาศเชิญชวนนักสืบโซเชียลและสื่อมวลชนให้ช่วยตามหาชายปริศนาคนหนึ่ง คือ มือวางระเบิดใส่เจ้าหน้าที่จำนวนหลายลูก โดยหากผู้ใดพบเห็นเบาะแส สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บช.น. หรือ เจ้าหน้าที่ สน.ชนะสงคราม ได้ทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บกำลังรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ 9 ราย โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 2 ราย อาการสาหัสกะโหลกแตกน่าเป็นห่วง 1 ราย ขณะนี้คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50 ราย เบื้องต้นสามารถจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ 20 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ที่ ตชด.1 จ.ปทุมธานี ตามรายละเลียด ดังนี้ 1. จับกุมระหว่างเวลา 19.30 น.-20.00 น. บริเวณสนามหลวง จำนวน 7 ราย 2. จับกุมระหว่างเวลา 00.00 น.-00.30 น. บริเวณแยกคอกวัว จำนวน 5 ราย 3. จับกุมเวลา 00.30 น. บริเวณแยกสะพานวันชาติ จำนวน 8 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวประกอบด้วย
1. หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9
2. ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
3. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34(6) และมาตรา 51
4. ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
5. เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมซึ่งกระทำความผิดตาม มาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิกผิด มาตรา 216
6. ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
7. ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธ โดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปตามมาตรา 138 วรรค 2 ประกอบมาตรา 140 วรรค 1
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ย้ำเน้นว่าการชุมนุมในช่วงเวลานี้มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ตน พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องกีดขวาง เนื่องจากสถานที่ที่มีการชุมนุมเป็นสถานที่สำคัญ และทางเจ้าหน้าที่มีมาตรการในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมตามขั้นตอนการจัดการชุมนุมสากล