"วิโรจน์"ซัดปรับ ครม. ไม่ได้หาคนที่เหมาะสมมาทำงาน แต่เพื่อตอบสนองต่อระบบมุ้ง ขั้วการเมืองเท่านั้น
เสียชีวิตแล้ว! สาวเมืองคอนเหยื่อด้ามไม้กวาดแทงทะลวงอวัยวะเพศ
ความในใจ “ไบรท์” หลังสูญเสียคุณแม่ ‘นักสู้คนเก่งของลูก’
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการปรับ ครม.ใหม่ว่า ชื่อรัฐมนตรีสะท้อนชัดว่า เป็นการปรับตำแหน่งเพื่อการขยับสับเปลี่ยนขั้วอำนาจเท่านั้น ไม่ได้มุ่งที่จะหาคนที่เหมาะสม มาขับเคลื่อนนโยบายกระทรวง เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนเลย อย่างกรณี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ประชาชนที่ติดตามการเมือง ต่างก็ทราบว่า เป็นผู้ที่มีความสนิท และใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ การได้มาซึ่งตำแหน่งรัฐมนตรีของทั้ง 2 ท่านนี้ จึงเป็นการปรับตำแหน่ง เพื่อยึดโควตารัฐมนตรีคืนจากกลุ่ม กปปส. ซึ่งมีนายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และถือเป็นการกำจัดขั้วอำนาจของ กปปส. ให้พ้นไปจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตามสำนวนไทยที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนทัพ เท่านั้น
ยสบวิโรจน์ กล่าวต่อว่า แต่ประเด็นที่เป็นข้อสังเกตก็คือ น.ส.ตรีนุช ไม่เคยมีบทบาท ที่เด่นชัดในงานด้านการศึกษาเลย ไม่เคยแสดงให้สาธารณชนรับรู้ถึงแรงบันดาลใจ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และปกป้องสิทธิ และเสรีภาพของของเด็กและเยาวชนเลย ไม่เคยแสดงให้ประชาชนได้เห็นถึงความทุ่มเทในการแก้ไขปัญหาการศึกษาของชาติ ไม่เคยแสดงท่าทีที่ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามั่นใจได้ว่า จะเป็นที่พึ่งพิงได้ และไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาการศึกผาาของชาติเลย จึงเป็นที่สงสัยของประชาชน นักเรียนนักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ว่าจะสามารถเข้ามาแก้ปัญหา และพัฒนาการศึกษาของชาติ ให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และอยู่ในแนวทางที่อารยะประเทศ เขาขับเคลื่อนกันได้หรือไม่
“สำหรับคุณชัยวุฒิเอง การที่ไม่ได้จบการศึกษาทางด้านดิจิทัล หรือคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัท Gulf Energy ซึ่งไม่ใช่บริษัททางด้านดิจิทัล ก็ไม่ใช่ปัญหามากมายนัก แต่ความกังวลที่ประชาชนมีต่อคุณชัยวุฒิ ก็คือ บทบาทที่ผ่านมา ในฐานะ ผู้ภักดีต่อทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ที่มีท่าทีปฏิปักษ์อย่างชัดเจนต่อผู้ชุมนุม และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ของคุณชัยวุฒิ อาจจะเข้ามาเพื่อเซ็นเซอร์ และจำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออกในโลกไซเบอร์มากกว่า ซึ่งจะทำให้ศักยภาพทางเศรษฐกิจ ในที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัลของประเทศ ลดทอนลง และอาจจะเป็นการกีดขวาง การพัฒนาธุรกิจใหม่ๆของประเทศอีกด้วย ความฝันที่จะเห็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นน่าจะเลือนลางอย่างมาก ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่คุณชัยวุฒิ ต้องพิสูจน์ตนเอง ว่าจะเป็นแค่หัวหน้ากองเซ็นเซอร์ อย่างที่คนเขาคาดการณ์เอาไว้หรือไม่"ฯายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ ตั้งข้อสังเกตว่า สำหรับนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ นี่ประหลาดใจมาก เพราะมาจากการคัดเลือกแบบโหวตภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยในกระทรวงใด จึงสะท้อนให้ประชาชนได้ทราบอย่างชัดเจนว่า เป็นการคัดเลือก ผ่านระบบมุ้งและเครือข่ายอำนาจภายในพรรคเท่านั้น ไม่ได้คัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม กับการเข้ามาบริหารงานในกระทรวงเลย และในท้ายที่สุดก็มาเป็นรัฐมนตรีช่วย สลับกระทรวงกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล โดยนายวีรศักดิ์ ย้ายจาก รมช.พาณิชย์ ไปเป็น รมช.คมนาคม แทนที่นายถาวร เสนเนียม ที่พ้นตำแหน่งไป เพื่อที่จะได้ย้ายมาทำงานร่วมกันกับคนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทำให้พรรคภูมิใจไทย ยึดกระทรวงคมนาคมไว้ได้ทั้งกระทรวง ในขณะที่นายสินิตย์ จะไปเป็น รมช.พาณิชย์ ไปทำงานร่วมกันกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ยึดกระทรวงพาณิชย์ได้ทั้งกระทรวงเช่นเดียวกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงประจักษ์ชัดแจ้ง อยู่แล้วว่า การปรับ ครม.ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการปรับเพื่อหาคนที่เหมาะสม มาทำงานให้กับประชาชน แต่เป็นการปรับ เพื่อตอบสนองต่อระบบมุ้ง ระบบขั้วการเมืองเท่านั้นเอง