หมิ่นประมาทต้องโดน ! “จั๊กจั่น – เค” พร้อม “ทนายนิด้า” เข้าแจ้งความดำเนินคดี อดีตผจก. - เพื่อนสนิท ปมโลกใบที่ 2 เรียกค่าหายไม่น้อยกว่า 10 ล้าน พร้อมเปิดแชต “ตาลทิพย์” กุเรื่องชวนอึ้ง
เรียกได้ว่าเดินหน้าฟาดต่อไม่รอให้คนกุข่าวสร้างเรื่องได้ลอยนวลนานเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงสาว “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” หลังจากที่ถูกอดีตผู้จัดการกุข่าวลือสร้างเรื่องโลกใบที่ 2 มาเพื่อหวังทำลายว่าที่เจ้าบ่าว “เค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา” อยู่นาน จนส่งผลกระทบทั้งต่อสภาพจิตใจและงานมงคลสมรสที่กำลังใจเกิดขึ้น แถมยังมีการส่งข้อมูลอันเป็นเท็จให้กับสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ก่อนที่จะถูกสายสืบโซเชียลและบุคคลต่างๆ แฉว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการปล่อยข่าวของอดีตผู้จัดการส่วนตัว และดาราสาวอดีตเพื่อนสนิทของจั๊กจั่นก็มีส่วนทำให้ “จั๊กจั่น-เค” เสียหายด้วย
โดยวันนี้ (24 มี.ค. 2564) “จั๊กจั่น” พร้อมด้วยว่าที่เจ้าบ่าว “เค วัฒนา” และทนายความสาว “ศรัญญา หวังสุขเจริญ” หรือ “ทนายนิด้า” ก็ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน. บางเขน เอาผิดกับ “อาบี” อดีตผู้จัดการส่วนตัว และดาราสาวเพื่อนสนิท ได้ความผิดข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
พร้อมกันนี้ “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ก็ยังเปิดใจต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า…
“คดีนี้ยืนยันจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุดไม่ไกล่เกลี่ย เพราะไม่ใช่เรื่องที่ลูกผู้หญิงคนนึงต้องถูกกระทำ และเรื่องดังกล่าวก็มีความรุนแรงลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเอง กระทบต่อจิตใจ ชื่อเสียง และหน้าที่การงาน อีกครั้งช่วงก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มคบกับว่าที่เจ้าบ่าวอดีตผู้จัดการก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการคบหาผู้ชายคนนี้ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผู้จัดการส่วนตัวได้มีการติดต่อมาขอโทษแต่ตนเองได้มีการพูดคุยกันบางส่วน แต่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการไกล่เกลี่ย
ซึ่งขณะนี้ได้เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนใหม่แล้ว แต่ในเรื่องทางธุรกิจอยู่ระหว่างการให้ทนายเป็นผู้พิจารณารายละเอียดทั้งหมด
ส่วนอีกหนึ่งบุคคลที่จะแจ้งความดำเนินคดีคือ ดาราสาวเพื่อนสนิท โดยก่อนหน้านี้ดาราคนนี้ได้ติดต่อมาขอโทษแล้ว แต่เป็นประเด็นอื่น และฟังดูเหมือนกับว่าเพื่อนสนิทยังเชื่อในเรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้น เหมือนเรื่องจะจบ แต่เจตนาเหมือนยังไม่จบ โดยในระหว่างขอโทษจึงรับฟังเฉยๆ ไม่ได้ตอบรับและปฏิเสธ ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทก็ส่วนหนึ่ง แต่ในทางคดีก็ต้องให้เพื่อนรับผิดชอบ
ขณะที่ทางด้าน “เค วัฒนา” ว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้เปิดใจว่า “ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทั้งสองคนยังรักกันแน่นแฟ้นและไว้ใจกันมากขึ้น และไม่มีเรื่องไหนจะมาสั่นคลอนความรู้สึกของทั้งสองคนนี้อีก
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผลต่อธุรกิจและคู่ค้า เนื่องจากในระหว่างการเจรจาธุรกิจของที่บ้านคู่ค้าบางคนเกิดความเกรงใจและสอบถามถึงเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสีดำที่มีเรื่องราวเผยแพร่ออกมา ฟังผลกระทบต่อบริษัทและครอบครัวของตนเอง 100 เปอร์เซ็นต์”
ทางด้าน “ทนายนิด้า ศัรญญา” ก็ยังได้เปิดเผยว่า… “เบื้องต้นจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4 คนคือ 1. อดีตผู้จัดการส่วนตัว 2. เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นคน “ชื่อตาล” 3. เบอร์ที่อ้างว่าเป็น “แม่ตาล” และ 4. ดาราสาวอดีตเพื่อนสนิท ของจั๊กจั่นด้วย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
โดยพบว่าทั้ง 3 คนมีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิด ส่วนอดีตเพื่อนสนิท คือผู้ที่ทำให้จั๊กจั่นและครอบครัวของว่าที่สามีเกิดความเสียหาย โดยจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง อย่างน้อยรวมมากกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อธุรกิจและชื่อเสียงของลูกความ อีกครั้งจากการสืบค้นในเบื้องต้นไม่พบชื่อของคนที่ชื่อจริงตาล ทั้งนี้เบอร์โทรศัพท์ทั้ง 2 เบอร์ ก็พบว่าเป็นของอีกบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ได้ชื่อตาล
โดยคดีนี้มีดาราและบุคคลในวงการบันเทิงหลายคน อาสาเข้ามาเป็นพยานในคดี อาทิ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” , “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” และ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” แถมทางด้าน “บุ๋ม ปนัดดา” ก็ได้มีการส่งข้อความแชตที่อดีตผู้จัดการส่วนตัวของจั๊กจั่นส่งข้อความให้ มาเป็นหลักฐานในคดีด้วย อีกทั้งยังมีข้อความแชตอีก 22 ข้อความ ที่มีดาราและคนดังส่งให้เป็นหลักฐานในคดีด้วย”
ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : jj_akhamsiri
ด้าน “พันตำรวจโท สราวุธ บุตรดี” รองผู้กำกับการสอบสวน สน. บางเขนเปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้เสียหายจะแจ้งความเอาผิด 4 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาทุกคนมารับทราบข้อกล่าวหา “โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาทำการไกล่เกลี่ยในขั้นต้นต่อหน้าพนักงานสอบสวนก่อน ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ ก็สามารถถอนแจ้งความได้ เนื่องจากคดีดังกล่าวสามารถยอมความได้ แต่หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงได้ พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนไปให้อัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง และนำเรื่องขึ้นในชั้นศาล”