เหมือนมีใครมาควักเอาแก้วตาดวงใจ “ไบรท์ พิชญทัฬห์” ระบายความคิดถึงจากก้นบึ้งหัวใจ เพิ่งเข้าใจความรู้สึกใจจะขาด หลังสูญเสียคุณแม่สุดที่รัก
เป็นการสูญเสียที่สร้างความเศร้าโศกและยากที่จะทำใจในเวลาอันสั้นสุดๆ สำหรับผู้ประกาศข่าวสาว “ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” หลังจากที่คุณแม่สุดที่รักไปจากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา
“ไบรท์ พิชญทัฬห์” สูญเสียคุณแม่สุดที่รัก หลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง
ความในใจ “ไบรท์” หลังสูญเสียคุณแม่ ‘นักสู้คนเก่งของลูก’
“สรยุทธ” ร่วมงานศพคุณแม่ “ไบรท์” พร้อมกอดส่งกำลังใจให้น้องรักในวันสูญเสีย
โอเคนัมเบอร์วัน ! ด้อม “ซี พฤกษ์” จัดฟู้ดซัพพอร์ต ส่งกำลังใจให้ชุดใหญ่ไฟกะพริบ
“เอมี่” ส่งกำลังใจให้ “ครีม” หลังยอมรับเตียงหัก ไม่วายแซวต่อท้ายโสดแล้วสวยขึ้น
ซึ่งล่าสุด (24 มี.ค. 2564) “ไบรท์” ก็ได้เผยคลิปเก่าที่ถ่ายไว้เมื่อวันแม่ปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าตัวได้นำพวงมาลัยไปไหว้ขอพร “คุณแม่มนทิรา” ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมกับเขียนข้อความสุดซึ้งจากก้นบึ้งหัวใจและระบายความคิดถึง พร้อมทั้งเล่าเศร้าเพิ่งเข้าใจความหมายของ “แก้วตาดวงใจ” เมื่อความสูญเสียมาเยือน และเข้าใจความรู้สึก “ใจจะขาด” อย่างแท้จริง โดยงานนี้ “ไบรท์ พิชญทัฬห์” ก็ได้เผยข้อความเศร้าชวนน้ำตาคลอไว้อย่างละเอียดว่า…
“คิดถึงที่สุดเลย แม่ขา
ไบรท์เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า "แก้วตาดวงใจ" ก็เมื่อตอนที่แม่ป่วยหนักคราวนี้
ก่อนหน้านี้แม่พูดมาตลอดว่า ลูกทั้งสองคนคือ "แก้วตาดวงใจของแม่" ไบรท์ฟังเข้าใจ แต่เพิ่งจะรู้ถึงความหมายของมันอย่างแท้จริงก็เมื่อความสูญเสียมาถึง
มันเหมือนมีใครมาควักเอา "แก้วตา" และ "ดวงใจ" ของไบรท์ไป ความรู้สึก "ใจจะขาด" มันเป็นแบบนี้นี่เอง
น้องไบรท์ คลิปนี้ถ่ายช่วงวันแม่ปีที่แล้ว สิงหาคม 63” งานนี้ก็มีบรรดาคนบันเทิงและแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้กับผู้ประกาศข่าวสาวกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
สำหรับไบรท์ แม่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเกินกว่าใครจะนึกถึง ผ่านการผ่าตัดใหญ่มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีน้ำตา ไบรท์ไปส่งแม่เข้าห้องผ่าตัดทุกครั้ง ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่แม่จะเหลียวกลับมามอง น้ำตาแม่มักไหลออกมาด้วยเรื่องเฉพาะหน้า เช่น เจ็บหรือปวดเกินจะทน ไม่ใช่ร้องไห้เพราะน้อยใจในโชคชะตาว่าฉันเป็นมะเร็ง หรือเพราะฉันกำลังจะตาย
ไบรท์เป็นเด็กติดแม่ ตั้งแต่จำความได้ที่ไหนไม่มีแม่ที่นั่นจะไม่มีไบรท์ ถ้ามีวันไหนที่ต้องนอนโดยไม่มีแม่จริงๆ ไบรท์จะเอาหมอนของแม่มานอนกอด เพราะกลิ่นของแม่จะทำให้หลับสบาย หนังสือและสมุดทุกเล่มตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมหาวิทยาลัย ไบรท์จะให้แม่เขียนชื่อที่หน้าปกให้ ด้วยความเชื่อแบบเด็กๆ ว่า ถ้าเล่มไหนมีลายมือแม่ วิชานั้นจะได้คะแนนดี จนโตทำงานแล้ว ไบรท์ก็ยังชอบให้แม่เขียนหน้าปกสมุดบัญชีให้ เพราะมีความเชื่อเล็กๆ อยู่ในใจเสมอ ว่าลายมือแม่จะทำให้เงินงอกเงย
แม่คือครึ่งหนึ่งของชีวิตไบรท์ เป็นทุกอย่าง ทั้งที่ปรึกษาและเพื่อนสนิท ไบรท์พูดกับแม่ได้ทุกเรื่อง ไบรท์เป็นคนชอบเล่า ส่วนแม่เป็นคนชอบฟัง ไบรท์ชอบให้แม่อวยพร ขณะที่แม่ก็มักจะอวยพรเวลาลูกๆ ทำอะไรให้แม่เสมอ เราสองคนแม่ลูกจึงลงตัว
15 กุมภาพันธ์ ก่อนการรับรู้ของแม่จะลดลงตามลำดับ ไบรท์บอกแม่ว่า ใกล้วันเกิดลูกแล้วนะ แม่จำได้มั๊ยว่าวันที่เท่าไหร่ แม่ยิ้มแล้วตอบว่า ยี่สิบสอง (22) แม่เอามือลูบหัวและอวยพรให้ลูกเหมือนเช่นเคย
"อยู่เย็นเป็นสุขนะลูกนะ เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป" มันเป็นคำอวยพรธรรมดาๆ ที่กินใจลูกที่สุดเลย แม่ขา
ไบรท์โชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาเป็นลูกสาวแม่ ความรัก ความเสียสละ และการทุ่มเททุกอย่างให้ลูกของแม่จะอยู่ในใจของไบรท์และพี่บุ๊ค และเป็นต้นแบบให้เราทั้งสองคนตลอดไป
ต้นไม้แห่งความดีที่แม่ปลูกไว้ในใจของลูกจะเติบโต ผลิบาน ตราบเท่าที่ลูกยังมีลมหายใจ
38 ปีเต็มแห่ง "ความรัก ความผูกพัน" จากนี้ไปมันจะ "ผูก" และ "พัน" กันในใจของเราแม่ลูกตลอดไป
ไบรท์มั่นใจไม่ว่าแม่จะไปอยู่ที่ไหน ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นที่เท่าไหร่ แม่จะคอยมองลงมาที่ลูก...ที่เป็น "แก้วตาดวงใจ" ของแม่เสมอ
ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : bright_ch3