"ผบช.น."แถลงจับ 3 คดียึดยาเสพติด-ปืนเถื่อนอื้อ

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดและค้าอาวุธปืน โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายธวัชชัย ใบคำ อายุ 20 ปี ชาวอุบลราชธานี และนายปภังกร ทรัพยคุณา อายุ 20 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางยาบ้า 854,000 เม็ด ยาไอซ์ 386.9 กรัม เคตามีน 890 กรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 7กด-5866 กรุงเทพมหานคร ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยจับกุมได้ภายในซอยเพชรเกษม 94 แยก 14 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก บก.สปพ. ร่วมกับ กก.สส.บก.น.8 ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดย่านบางแค จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายขณะนำยาเสพติดไปจำหน่ายให้ลูกค้า จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/185 ซอยเพชรเกษม 94 พบของกลางซุกซ่อนอยู่ในบ้านเช่าซึ่งเอาไว้พักยาเสพติด จากการสอบสวนนายปภังกร รับสารภาพว่าทำมาแล้วประมาณปีเศษ ก่อนชักชวนเพื่อน คือ นายธวัชชัย ให้มาช่วยทำ โดยให้ค่าส่งยาบ้า 200 บาท ต่อ 2,000 เม็ด ตำรวจจึงนำตัวทั้งคู่ส่ง บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนงานสายตรวจ 2 บก.สปพ. ได้จับกุม นายพีรพล ยิ้มวิสัย หรือนู อายุ 23 ปี, นายวรวัฒ ศรีสำราญ หรือรี่ อายุ 25 ปี, น.ส.กนกวรรณ อ่อนศรี อายุ 26 ปี แฟนสาวนายวรวัฒ และนายนครินทร์ มั่นคง หรือนี อายุ 23 ปี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 217 กก. โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ถุงพลาสติกใส 2 ห่อ พลาสติกกันกระแทก กล่องพัสดุ 51 กล่อง กระดาษกาว รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน 7 กข-3392 กรุงเทพมหานคร และรถ จยย.1 คัน การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสพลเมืองดีว่ามีผู้ลักลอบขายกัญชาส่งทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุม นายพีรพล ได้ภายในซอยอ่อนนุช 53 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. พร้อมของกลางกัญชา 6 กก.อยู่กล่องไปรษณีย์ ขณะขี่ จยย.ไปพัสดุนำฝากส่งให้ลูกค้า จากนั้นขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้ที่ย่านประเวศและพระโขนง พร้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/15 ซอยปุณณวิถี 11 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายนครินทร์ สามารถตรงจยึดกัญชาได้เพิ่มเติมกว่า 200 กิโลกรัม จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เปิดกลุ่มไลน์ชื่อ HappyMeal ขายกัญชา โดยใช้ชื่อไลน์ปาปิก้า ติดต่อลูกค้า รับกัญชามาจาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคากิโลกรัมละ 6,000 บาท เดือนหนึ่งขายได้เฉลี่ย 100 กิโลกรัม ทำมาแล้ว 1 ปีเศษ จากการตรวจสอบประวัติ นายวรวัฒ และ น.ส.กนกวรรณ มีหมายจับศาลพระโขนง ในความผิดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 6 จึงนำตัว นายวรวัฒ พร้อมของกลางส่ง สน.พระโขนง ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน นำส่ง สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า คดีสุดท้าย ตำรวจ บก.สปพ. ได้จับกุม นายธีรภัทร รุ่งโรจน์ประกาย อายุ 21 ปี พร้อมของกลางระเบิดควัน 1 ลูก อาวุธปืน AK47 (อาก้า) 1 กระบอก ปืนพกสั้น CZ compact ขนาด 9 มม. ซองแม็กกาซีน ขนาด 7.62 มม. กระสุน ขนาด 7.62 จำนวน 26 นัด กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 18 นัด กระสุนปืน ขนาด 9 มม.103 นัด กระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 10 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 15 นัด ยาไอซ์ 3.05 กรัม ยาอี 2 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 2.4 กรัม ใบกระท่อม 40 ใบ ยาบ้า 25 เม็ด รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน กบ 8867 สุพรรณบุรี สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เบาะแสว่า นายธีรภัทร ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยใช้ชื่อว่า "เพชรอุมา" จึงทำการล่อซื้อโดยสั่งอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ราคา 27,000 บาท นัดส่งของที่ปั๊มน้ำมันย่านลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ในตอนค่ำวันที่ 31 มี.ค. ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม นายธีรภัทร ขณะขับรถยนต์นำปืนมาส่ง จากนั้นขยายผลตรวจค้นรถ และบ้านเลขที่ 224/26 อยู่ภายในซอยลาดพร้าว 93 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ก่อนพบของกลางจำนวนมาก จากการสอบสวน นายธีรภัทร์ ให้การว่า ซื้ออาวุธปืนและยาเสพติดจากกลุ่มไลน์ “เพชรอุมา” ก่อนนำไปขายต่อเอากำไรในกลุ่มไลน์ ชื่อ "เศษเหล็กอันตราย" โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละกว่าแสนบาท นอกจากนี้ยังมีอาชีพช่วยพ่อซ่อมรถ จยย.โดยเปิดอู่อยู่ย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาอัดแท่ง,ใบพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่ง สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย