ขุดอดีตแสนปวดร้าว "เกรซ ชลิตา" เผยเคยโดนซ้อมอัดติดกำแพงเดินไม่ได้ ต้องเข้าแสกนสมอง อีกฝ่ายเอาไปเล่าต่อเสียๆ หายๆ ไร้สำนึกผิด ...
นี่คงไม่ใช่เรื่องดราม่าแฉกันไปมาแบบธรรมดาๆ เสียแล้ว เพราะหากได้อ่านเรื่องราวของเธอในครั้งนี้ทุกคนจะรู้ว่านี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง เป็นการกระทำที่เลวร้ายที่สุดที่ฝ่ายหนึ่งกระทำกับผู้หญิงอย่างไร้ความปรานี ซึ่งเรื่องนี้โลกต้องจดจำเป็นอุทาหรณ์สำหรับใครก็ตามที่กำลังศึกษาดูใจใครบางคนแบบผิวเผิน สำหรับ กรณี ที่ "เกรซ ชลิตา" อดีตแฟนสาวของพระเอกดัง "พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์" ออกมาแฉนักแสดงหนุ่มปริศนาคนหนึ่งที่มีนิสัยปากไม่ดี เอาเรื่องไม่จริงไปพูด สร้างความเสียหายให้เธอทั้งที่ตัวเองนั้นสร้างภาพปลอมเปลือกสุดๆ ดูดีในสายตาคนอื่นๆ
"ไฮโซอาร์ต" โดดปกป้อง "เกรซ" หลังแฉพฤติกรรมดาราชายปากหมา !!
แฟนไม่ดีรู้ถึงไหนอายถึงนั่น...วิธีลืมแฟนเก่าฉบับ "เกรซ"
"พอร์ช" เปิดตัวแล้ว ได้เวลา "เกรซ ชลิตา" เปิดตัว "อาร์ต" หนุ่มหล่อ ตระกูลดัง
ล่าสุดของล่าสุด สาว "เกรซ" ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ขุดแฉอีกครั้งราวระเบิดลง โดยเธอเล่าว่า เคยโดยอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย กักขังไว้ในห้อง หนักหน่วงจนต้องแสกนสมอง ซึ่งกลายเป็นแผลเป็นที่ติดอยู่ทั้งในร่างกายและจิตใจจนปัจจุบันก็ไม่เลือนหาย ที่ผ่านมาไม่เคยพูดให้ใครฟังนอกจากเพื่อนสนิท รู้สึกเกลียดตัวเองและมองว่าเป็นความโง่ของตัวเธอเอง ปัจจุบันอยากโฟกัสแค่ชีวิต ณ ตอนนี้ แต่เพราะหนุ่มคนนั้นยังคงเอาเรื่องราวไปเล่าลับหลังให้คนโน้นคนนี้ฟังแบบผิดๆ ไม่หยุดสาวเกรซรู้สึกเสียหายจึงจำเป็นต้องออกมาพูด
ซึ่ง "เกรซ ชลิตา" เล่าว่า
"นอกเหนือจากเรื่องนอกใจ เกรซต้องเจอเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลให้ทั้งทางใจและทางร่างกาย เคยโดนหนักจนเดินไม่ได้ เคยต้องสแกนสมองที่โรงพยาบาล เนื่องจากหูและศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง เกรซมีรอยแผลเต็มตัวที่เกิดจากการกระทืบจนช้ำ ถีบอัดกำแพง กระชาก เหวี่ยง จิกหัวกระแทก ลากไปกับพื้น เขี่ยบุหรี่ใส่หัว ปาของแข็งใส่หน้าจนเขียวช้ำ บีบคอ ขังไว้ในห้องไม่ให้ออก และมีที่เลวร้ายและรุนแรงกว่านี้มาก มากเกินกว่าที่ผู้หญิงคนนึงจะต้องเจอ
หลายครั้งเขา โทษว่า เป็นความผิดของเกรซคนเดียว และเกรชโทษตัวเองมาตลอด ไม่เคยมีใครรู้ว่าเขามีนิสัยแบบนี้ในตอนนั้นเกรชพยายามใช้ความเข้าใจเพื่ออยู่ต่อ มันคือความโง่ของตัวเกรซเอง เหตุการณ์ทั้งหลายกลายเป็นแผลเป็นทั้งบนร่างกายและในจิตใจ เหตุการณ์ทั้งหมดที่ได้เจอยังคงบั่นทอนจิตใจเกรชมาจนถึงทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง มีหลายครั้งที่รู้สึกเกลียดตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเหตุการณ์เหล่านั้นก็ยังหลอกหลอนอยู่ทุกครั้งที่เห็นเขาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ พูดจาให้ร้ายโดยที่ไม่สนใจการกระทำของตัวเอง...
...ที่ผ่านมาเกรชไม่เคุยบอกใคร แม้แต่ครอบครัวก็ไม่รู้ มีเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้เรื่อง ที่ผ่านมาเกรซไม่พูด และพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้อีกแล้ว แต่ก็มีคนนอกที่ไม่รู้เรื่องจริงมากล่าวหาใส่ความต่างๆ และเจ้าตัวก็ยังคงเอาเรื่องไปเล่าให้คนอื่นฟังแบบเสีย ๆ หาย ๆ เกรซจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องนี้ถึงคุณจะเอาเรื่องไปเล่าแบบไหน แต่คุณย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ความจริงคืออะไร การที่ต่อหน้าคนอื่นพูดอย่างหนึ่ง แล้วลับหลังมาขอโทษ เกรชขอพูดตรงนี้ ในพื้นที่ของเกรชว่า เกรซขอไม่รับคำขอโทษที่ไม่จริงใจ และไม่รับคำขอโทษลับหลังใดๆ ทั้งสิ้นจากคุณค่ะ"
ซึ่งหลังจากที่สาว "เกรซ" ได้โพสต์เรื่องราวความเจ็บช้ำที่เธอเคยประสบมา ก็มีชาวเน็ตเข้ามาส่งกำลังใจ พร้อมกับโยนข้อกฎหมายให้ได้อ่านกัน เพราะสิ่งที่เธอเคยเจอมานั้นมันเข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานสามารถนำความมาฟ้องกันได้เลย หากมีหลักฐานเพียงพอ