คณบดีศิริราชชี้โควิดสายพันธุ์อังกฤษแพร่เร็วอาจทำเสียชีวิตพุ่ง

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเผยข้อมูลล่าสุดโควิดสายพันธุ์อังกฤษแพร่เร็วอาจทำให้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 นับเป็นวิกฤติโลกรอบใหม่ที่องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า จากการติดตามการเปลี่ยนแปลงอุบัติการณ์ติดเชื้อและการเสียชีวิต พบสัญญาณการติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ อัตราการเสียชีวิตต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ ทำให้ทั่วโลกขณะนี้เสียชีวิตสะสม 3 ล้านกว่าคน แต่จะเห็นว่าการเสียชีวิตใน 1 ล้านคนแรกนั้นใช้เวลา 9 เดือน อีก 1 ล้านที่ 2 ใช้เวลา 4 เดือน แต่ใน 1 ล้านที่ 3 ใช้เวลาเพียง 3 เดือน โดยเสียชีวิตเร็วขึ้น และอายุน้อยลง ในไทยพบติดเชื้อเสียชีวิตน้อยลง 20-39 ปี เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการที่ผู้สูงอายุได้รับการฉีดวัคซีน และอยู่กับบ้าน ขณะเดียวกัน คนหนุ่มสาวยังออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านและติดเชื้อ ตอนนี้ไม่ได้ติดเชื้ออย่างเดียว แต่มีเรื่องการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่เดิมเราเชื่อว่าสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิมพบว่ามีการแพร่กระจายเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ความรุนแรงไม่เพิ่มขึ้น แต่รายงานล่าสุดจากสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นว่าอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ตนใช้คำว่าอาจจะเพราะเพิ่งเห็นรายงานเดียว ซึ่งสายพันธุ์นี้มีการระบาดในประเทศไทยแล้วในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็มีจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างเยอะ ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้ B .1.351 ก็แพร่ได้เร็วกว่าเดิม แต่ไม่ได้รุนแรงกว่าเดิม ทั้งนี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ยังครอบคลุมสายพันธุ์นี้ได้ดี ดังนั้นวัคซีน คือเครื่องมือที่สำคัญในการจัดการกับการแพร่ระบาด ที่ต้องฉีดให้ได้อย่างน้อยคือ 25 เปอร์เซ็นต์ ของคนในประเทศ ทั้งนี้เวลาพูดถึงอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนเกิด แม้แต่ 1 ราย ก็จะพูดกันไปเยอะ แต่เป็น 1 ในล้านๆ โดสที่มีการฉีด วันนี้อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ 2.2 เปอร์เซ็นต์เยอะมาก อย่ารีรอที่จะฉีดวัคซีน ยิ่งฉีดเร็วขึ้นความปลอดภัยก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อถึงคิวให้รีบฉีด