ที่ปรึกษา รมช.สธ.เผย "หมอพร้อม" เวอร์ชั่น 2 เปิดรับลงทะเบียนฉีควัคซีน 1 พ.ค. เวลา 9.00 น. สำหรับประชาชน 7 กลุ่มโรคเสี่ยงและผู้สูงอายุ
รวมเลขเด็ด 10 สำนัก งวดวันที่ 2 พ.ค.2564
เชื่อพญานาคสำแดงปาฏิหาริย์ "เมฆ วินัย" เผย หมดเงินรักษาโรคร้าย 3 ปี 4 ล้าน
ลูกสาว "น้าค่อม" บอกพ่อไม่ต้องห่วงจะดูแลแม่และครอบครัวให้ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข แถลงข่าวประเด็น Line Official Account “หมอพร้อม” ว่า แพลตฟอร์มหมอพร้อมเป็นเครื่องมือในการลงทะเบียนจองและนัดฉีดวัคซีน ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้เข้าถึงบริการ ผ่านระบบแอพพลิเคชันไลน์ ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกจัดทำขึ้นเพื่อให้บุคลากรทางสาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า อสม. ได้ใช้เพื่อติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีนโควิด 19 และนัดหมายในการฉีดเข็มที่ 2
นายธนิตพล กล่าวต่อว่า ส่วน “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 ที่ได้พัฒนาเพื่อใช้งานสำหรับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 สำหรับประชาชน 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 16 ล้านคน โดยมีการปรับปรุงรูปแบบการลงทะเบียนให้ประชาชนประเมินสุขภาพตนเอง ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถประเมินอาการและฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้กระบวนการรับบริการมีความรวดเร็วขึ้นนอกจากนี้ยังสามารถลงทะเบียน ให้กับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย โดย Line Official Account “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ และจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป กรณีประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมได้ ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา หรือแจ้งที่อาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงระบบบริการอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ ได้รับการฉีดวัคซีนก่อน เนื่องจากเมื่อหากติดเชื้อจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไป ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นขอให้คิดว่าเป็นหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศด้วยการรักษาชีวิตผู้ที่มีความเปราะบาง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทยอยฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มอื่นเป็นลำดับถัดไป สำหรับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ หากมีความจำเป็นที่จะต้องรับการฉีดวัคซีนเร่งด่วน กระทรวงสาธารณสุขมีคณะทำงานในการพิจารณาความเหมาะสม เพื่อให้การควบคุมโรคในประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว
“บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมโรคโควิด เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ว่าจะได้รับฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ การออกจากบ้านทุกครั้งขอให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รวมถึงรักษาระยะห่าง เพื่อที่จะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว” นายธนิตพล กล่าว