ฝ่าดราม่าสุดรุงรัง "อแมนด้า" ย้อนเส้นทางนางงาม เคลียร์ประเด็นไม่ถูกกับมิสอินเดีย ? (มีคลิป)

ในเฟซบุ๊กเขาบอกว่าด้าไม่ถูกกับมิสอินเดีย จริงไหม ?
อแมนด้า : ไม่จริงค่ะ ใครบอกไม่ถูกอาจจะเป็นช่วงแรกๆ มิสสิงคโปร์ รูมเมทหนูเนี่ยเขาเข้ากองหลังจากหนู 1-2 วัน เขาต้องไป quarantine กว่าหนูจะได้เจอก็คือนานมาก แล้วล่วงแรก พี่เลี้ยงแต่ละคน ต้องมีนางงาม 10 คนที่เขาจะต้องดูแล แล้วอินเดียอยู่ทีมเดียวกับหนู ซึ่งตอนนั้นรูมเมทหนูยังไม่มา เวลาลงไปทานข้าวก็จะอยู่กับอินเดียตลอด แล้วคนจับสังเกตส่าทำไมหลังๆ ไม่ได้อยู่กับอินเดีย เพราะว่ารูมเมทเรามาแล้ว เราก็ไปกับเขาแค่นั้นเอง

เกือบเดือดร้อนเพราะแฟนคลับ เรื่องอะไร ?
อแมนด้า : พี่จี้ค่ะ พี่จี้กับพี่แอนนา พี่จี้เป็นคนนึงที่เวลานางงามเดินลงมา ปกติเขานัด 07.30 - 08.00 น. เดินลงมา พี่จี้กับพี่อาร์ตี้จะคอยยืนอยู่แล้ว พี่จี้มีสายสะพาย Thailand ซึ่งมันเหมือนกับของเราเลย แล้วนางงามเวลาไปไหนห้ามไปคนเดียวต้องไปกับพี่เลี้ยงตลอดเวลา หนูก็ใช้ชีวิตของหนู อยู่กับเพื่อนทำกิจกรรมของหนู แล้วพี่เลี้ยงก็เดินมาหาหนูแล้วบอกว่า Thailand รู้ไหมว่าเรื่องอะไรเกิดขึ้น มันตลกมากเลย หนูก็เลยถามว่าอะไรเหรอคะ รู้ไหมว่ามีการ์ดมาบอกว่าเธอไปเดินอยู่คนเดียวข้างล่าง เขาก็เดินลงไปตาม ปรากฏว่าเป็นพี่จี้ รู้ไหมว่าตอนแรกฉันโกรธมากทำไมเธอไปเดินคนเดียวไม่มีฉันไป

ถ้าพี่จี้ดูอยู่ตอนนี้จะบอกอะไร ?
อแมนด้า : ขอบคุณที่ไปเชียร์หนู




ที่เขาเมาท์กัน semifinal มีการกรีดชุดมิสเปอร์โตริโกด้วยเหรอ ?
อแมนด้า : ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ได้ยินพร้อมทุกคน ตอนอยู่ในกองหนูไม่ได้ยินเรื่องนี้เลย พูดตรงๆ อยากถามเพื่อนนางงามเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เราไม่รู้จะเปิดเรื่องนี้ยังไง

อย่างนี้ในวงการนางงามมันมีไหม ?
อแมนด้า : พูดจากประสบการณ์ด้าเองนะ เพราะว่าพูดแทนคนอื่นไม่ได้ ไม่มีเกิดขึ้นกับด้า

หลายคนมองว่าการประกวดครั้งนี้มีเชิงธุรกิจอยู่ ถ้าปีหน้าส่งรุ่นน้องไป ด้าจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง ?
อแมนด้า : ด้าต้องบอกก่อนเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ในคอนโทลของเรา แต่เราในฐานะที่เป็นนางงามไปประกวดเนี่ย สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ คือทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด อย่างด้าไปประกวด แม้ไม่ได้มง แต่ด้าก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองแพ้ เราทำดีที่สุดแล้ว เราภูมิใจในตัวเอง แล้วทุกคนก็เห็นว่าเราเต็มที่ในการประกวดมากแค่ไหน



เห็นว่าตอนนี้อแมนด้าเป็นหัวหน้าครอบครัว ?
อแมนด้า : ใช่ คุณพ่อก็เกษียณอายุแล้ว จริงๆ เขาต้องเกษียณนานแล้ว แต่เขาชอบทำงาน ด้วยโควิดทำให้เขาบินไปทำงานไม่ได้ ก็เลยหยุด หนูก็เลยเป็นหัวหน้าครอบครัว

เหนื่อยไหมกับการเป็นหัวหน้าครอบครัว ?
อแมนด้า : ไม่เหนื่อย เรารู้สึกว่าเอ็นจอยนะ

ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นยังไงบ้าง ?
อแมนด้า : แฮปปี้ดีค่ะ

มีแฟนเป็นชาวอังกฤษกี่ปีแล้ว ?
อแมนด้า : รู้จักกันประมาณ 4-5 ปี นานพอสมควร เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน เจอกันครั้งแรกไม่มีใครปิ้งใคร มันเหมือนเป็นการคุยกันเรื่อยๆ เวลาเราหาใครสักคนนึง เราไม่ได้มองที่หน้าตา เพราะว่าเวลาอายุมากขึ้นทุกอย่างมันก็หายไปหมด แต่เรากำลังมองหาเพื่อนคู่ชีวิตที่สามารถพูดคุยได้ตลอดเวลา

ชอบอะไรในตัวเขา ?
อแมนด้า : ความจริงใจ ด้าคิดว่าน่าจะเป็นจุดนึงที่หลายๆ คนมองหา ตรงไปตรงมา

ตอนนี้อแมนด้าเป็นคนดังแล้ว คิดว่ามันจะเป็นอุปสรรคกับความรักของเราไหม ?
อแมนด้า : ไม่ค่ะ งานคืองาน ถ้ามันเป็นปัญหาเราจะต้องมองกลับมาอีกทีว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องงานละ มันคือเรื่องอื่นหรือเปล่า

คิดไหมว่าคนนี้จะเป็นคนที่แต่งงานด้วย ?
อแมนด้า : มันก็อาจจะเป็นไปได้เนอะ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันมากับเรื่องเวลา เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าในอนาคตเส้นทางชีวิตเราไปในทางเดียวหันไหม คือถ้ามันไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่คนนี้ก็จริงใจ ณ โมเมนต์ตอนนี้คือเรามีความสุข แต่ยังไม่พร้อมแต่ง ยังไม่ได้คิดถึงจุดนั้นเลย อยากโฟกัสเรื่องงาน เรื่องอนาคตก็ให้มันเป็นเรื่องอนาคตไป



หลังจากนี้วางแพลนเรื่องงานไว้ยังไงบ้าง นางเอก นางแบบ พิธีกร ?
อแมนด้า : ก็ทำทุกอย่าง จริงๆ อยากจะลองวงการบันเทิงดู เพราะว่าเราเคยแสดงละครแล้วมันสนุกดี ถ้าในอนาคตได้เล่นเป็นนางเอกแบบฟาดๆ หรือนางร้ายน่าจะจอยนะ

คลิปสัมภาษณ์ อแมนด้า ออบดัม