เบอร์ลิน (เปโดร อาลอนโซ) ได้เคยพูดกับ ริโอ (มิเกล เฮอร์รัน) ในภาคแรกของ ทรชนคนปล้นโลก ว่าการมีลูกก็เหมือนกับ “หัวรบนิวเคลียร์ที่จะทำลายทุกสิ่ง” และหลายปีต่อมาในภาค 5 ของซีรีส์ เราจะได้พบกับ ราฟาเอล ลูกชายของเบอร์ลิน ที่รับบทโดย แพทริก ครีอาโด (จากซีรีส์สเปน Riot Police) โดยในวัย 31 ปี ชายผู้สำเร็จการศึกษาสายวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จาก MIT คนนี้มีหนึ่งสิ่งที่ชัดเจนในจิตใจของเขา นั่นก็คือเขาไม่อยากลงเอยแบบพ่อของตัวเอง
นอกจากราฟาเอลแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่ซีรีส์ได้เคยบอกใบ้ถึงเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเริ่มแรก ก่อนจะมาแนะนำให้เราได้รู้จักกันลึกซึ้งกว่าเดิม
“ชื่อของฉันคือ โตเกียว แต่ถ้าย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น มันไม่ใช่ชื่อฉัน ... นี่คือฉันในตอนนั้น และนี่คือคนที่ฉันรักที่สุด แต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน ฉันทิ้งเขาให้นอนจมกองเลือดด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง” ในภาคแรกของ ทรชนคนปล้นโลก เราได้รู้จักกับ โตเกียว (เออร์ซูล่า คอร์เบโร) ขณะที่กำลังซ่อนตัวจากตำรวจอยู่ในรถบ้าน และยังเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรักไป ในภาคนี้เราจะได้พบกับ เรเน่ (มิเกล อังเฮล ซิลเวสเตร จาก Sky Rojo แดงดั่งเพลิง และ Sense8) ชายผู้ที่เธอเริ่มปล้นด้วยเป็นครั้งแรก ผู้ที่เธอใช้ชีวิตด้วยอย่างมีความสุข ก่อนที่ผู้หญิงที่ชื่อ ซีลีน โอลิเวียร่า คนนี้จะได้พบว่าโลกที่เธอคิดว่าสมบูรณ์แบบก็สามารถพลิกผันเป็นอีกขั้วได้อย่างน่าใจหาย
อีกหนึ่งตัวละครที่มาร่วมขัดขวางการปล้นในซีซั่นนี้นั่นก็คือ ซากัสต้า (โฮเซ มานูเอล เซด้า จากซีรีส์สเปน Perdóname, Señor) ในบทบาทของผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษแห่งกองทัพสเปน โชกโชนไปด้วยประสบการณ์ในหลายภารกิจระดับชาติที่ต้องเจอกับวายร้ายในประเภทที่เลวที่สุด ซึ่งทำให้เขาเองก็เหี้ยมในระดับที่ไม่ต่างกับคนที่เขาเคยสังหาร เขาเป็นผู้นำตัวจริงชนิดที่แค่เอ่ยปากขอ ทีมของเขาก็พร้อมจะลุยไปด้วยกันจนสุดทางในทุกภารกิจ โดยเมื่อสวมเครื่องแบบ ชายคนนี้จะกลายเป็นนักคิดผู้เย็นชาและไร้ความปราณี สามารถมองข้ามทั้งจริยธรรมและคุณธรรมได้อย่างไม่ลังเลหากสถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนั้น
ทรชนคนปล้นโลก ภาค 5 ชุดที่ 1 จะพร้อมให้รับชมบน Netflix ในวันที่ 3 กันยายน 2564 นี้
เรื่องย่อ ทรชนคนปล้นโลก ภาค 5
แก๊งมหาโจรได้ติดอยู่ในธนาคารกลางแห่งชาติของสเปนมาเป็นเวลากว่า 100 ชั่วโมง ถึงพวกเขาจะสามารถช่วยลิสบอนได้สำเร็จ แต่กลับต้องเผชิญช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด กับการสูญเสียสมาชิกคนหนึ่งไป ส่วนศาสตราจารย์ที่ถูกสารวัตรเซียร์ราจับตัวไป ก็จนแต้มเป็นครั้งแรกโดยไม่มีแผนว่าจะหนีได้อย่างไร และเมื่อดูเหมือนว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเลวร้ายไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เหล่ามหาโจรก็ยังต้องมาเผชิญหน้ากับกองทัพ ซึ่งเป็นคู่ปรับที่ร้ายกาจกว่าศัตรูหน้าไหนๆ ที่พวกเขาเคยปะทะมา การปล้นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะดำเนินมาถึงจุดจบแล้ว และเกมชิงไหวชิงพริบนี้ก็จะร้อนระอุขึ้นจนเป็นสงครามเต็มตัว