ยังคงเป็นช่วงการเรียนรู้เรื่องมารยาทในการแสดงความคิดเห็นของการใช้โซเชียลในกลุ่มคนไทย ที่บางคนใช้ในทางที่ผิด อย่างการแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคาย การสร้างเรื่องราวไม่จริงเพื่อโจมตีบุคคลต่างๆ จนกลายเป็นคดีความกันไม่เว้นแต่ละวัน
อย่างกรณีของนักร้องหนุ่มเสียงดี "บี พีระพัฒน์ เถรว่อง" ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องราวของสังคมปัจจุบันในเรื่องความเห็นต่าง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
"ไปเจอมาในทวิต คงมีอีกหลายคนที่คิดแบบนี้ "ถ้าไม่ใช่สามกีบต้องเป็นสลิ่ม"หรือ "ถ้าไม่ใช่สลิ่มคือสามกีบ" ตรรกะพังมาก โลกมีความหลากหลายนะครับ ฝาแฝดยังคิดไม่เหมือนกันเลย มันคือเรื่องธรรมชาติที่สุดแล้ว แล้วการรังเกียจคนอื่นเพราะความเห็นที่แตกต่างนี่ เคยมีตัวอย่างจากสมัยฮิตเลอร์โน้มน้าวให้คนเกลียดยิว เดินผ่านคือถุยน้ำลายใส่หน้าเลย สุดท้ายฆ่ายิวไปสองล้านคน เราจะเอาแบบนั้นใช่ไหมครับ? ส่วนตัวผมไม่เกลียดคนที่มีความเห็นเรื่องการเมืองไม่เหมือนผมหรอกครับ แต่ถ้าเป็นนักการเมืองที่คอยปั่นหัวให้ผู้คนเกลียดกันละก็ หึหึ... #คอมเม้นได้อย่าหยาบคาย
#ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์"
ซึ่งหลังจากนั้นกลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดคลั่งทางการเมืองที่ไม่พร้อมรับฟังความคิดเห็นฝ่ายใด ต่างเข้ามาโจมตีนักร้องหนุ่มกันอย่างที่เคยไประรานคนดังท่านอื่นๆ จนคนส่วนใหญ่ต่างเอือมระอากับพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างมาก และทาง "บี พีระพัฒน์" ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นด้วยการโพสต์ข้อความขึ้นเฟซบุ๊คส่วนตัวหลังมีกลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหยาบคายว่า
- "ผมรักในหลวง ร.9 ผมไม่เอาเผด็จการ ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว โพสสุดท้ายเรื่องการเมืองนะครับ"
- "ทนายท่านไหนอยากทำคดีหมิ่นและพรบคอมครับ อินบอกซ์มาเลยครับ หาเงินบริจาคสะหน่อย"
- "หลังจากนี้จะเป็นเรื่องงานแล้วนะครับ ผมได้พูดสิ่งที่ผมรู้สึกไปหมดแล้ว ด้วยความหวังดีในตอนแรก แต่ก็มีน๊อตหลุดบ้างนิดนึงก็ต้องขออภัยด้วย ความหวังว่าเราอยู่ร่วมกันได้ในบรรยากาศที่ดี เปิดเผย พูดคุยกันได้โดยไม่ใช้อารมณ์ก็ยังมีอยู่เสมอ ไม่อยากเห็นความรุนแรงไม่ว่าจะในsocialหรือโลกความจริง"
และหลังจากที่ทาง บี พีระพัฒน์ ได้โพสต์ตามหาทนายความเพื่อเตรียมเอาผิดผู้ที่แสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรง ทางด้านโลกทวิตเตอร์ของกลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดได้มีการปั่นแฮชแท็กกันเช่นเคย จนชื่อนักร้องหนุ่มติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่ในขณะนี้