ซี้จอมปลอมทั้งคู่ ? "เอิ๊ก พรหมพร" เคลียร์ชัดกัดกับ "พชร์ อานนท์" จริงหรือ ? ลือ อวดรวยแข่งกัน !!
เคลียร์ชัดๆ คู่กันครั้งแรก ระหว่าง "พชร์-อานนท์" และ "เอิ๊ก พรหมพร" แจงสาเหตุถูกยุบรายการดัง ? ที่ทำด้วยกันมา 10 ปี แถมมีข่าวลือมีทัวร์ลงหนักมาก จนผู้ใหญ่สั่งปลดสายฟ้าแลบ ข้อหาไม่ปลื้ม สรุปแล้วลาออกเองหรือถูกไล่ออก ลั่นไม่ถูกชะตากันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก จนต้องขอเคลียร์คู่นี้สนิทกันจริงหรือแค่ปลอมใส่กัน พร้อมเปิดศึกแข่งกันอวดรวย?! ในรายการ คุยแซ่บShow
ที่ผ่านมาเป็นพิธีกรโดนทัวร์ลงหนักมาก ?
เอิ๊ก : ก็โดนกันเป็นประจำ ข่าวบันเทิงมันก็มีโอกาสที่จะถูกใจและไม่ถูกใจ พชร์ อานนท์ เขาชอบพูดตลก แล้วเราก็อดขำไม่ได้ บางทีเราหัวเราะคุณผู้ชมเขาก็ไม่เข้าใจ คิดว่าเราหัวเราะในเนื้อข่าว
เหมือนคนดูเขาไม่ขำด้วย ?
เอิ๊ก : บางเรื่องมันคือโลกที่สามโลกสองใบ ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เราเองก็เข้าใจมันเป็นช่วงที่อึดอัดหรือว่าเป็นช่วงที่ตกใจทำอะไรไม่ถูก เครียด และกังวล แต่สไตล์ข่าวมันไม่ใช่ข่าวอาชญากรรม แล้วบางทีพชร์ อานนท์เขาชอบพูดออกนอกเรื่องตลอดเวลา เราก็จะขำตรงนั้น
แล้วโดนหนักสุดขนาดไหน ?
เอิ๊ก : ขำอะไร เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก ก็อะไรประมาณนี้ จังหวะการขำของเราเองบางทีมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ แหละ
พชร์ อานนท์ : จัดรายการบันเทิงมันก็ต้องบันเทิงใช่ไหม บางทีในรายการเราพูดอีกเรื่องหนึ่ง หลังรายการบางทีเราพูดกันอีกเรื่องหนึ่งเราก็ขำ
เวลาเจอคอมเมนต์ทัวร์ลงเรากลับไปคิดไหม ?
พชร์ อานนท์ : ฉันไม่คิดเลย ฉันก็ไปทัวร์คันอื่น ฉันไม่ไปทัวร์คันเดียวกับเขา ฉันจะไม่สนใจ
เอิ๊ก : เขาจะเป็นทำนองนี้ด่ามาด่ากลับ
พี่พชร์ จะฟ้องชาวเน็ตกลับด้วย ?
พชร์ อานนท์ : ไม่ๆ ก็ลงให้ถูกจังหวะ ไม่ใช่ไปลงถึงพ่อแม่ เกิดมาอสุจิทะลุถุงยาง ทะลุถุงยางมาเกิด เราก็เลยบอกว่าถ้ากูทะลุมึงก็ทะลุกว่ากู
เรื่องนี้หนักสุดไหม ?
พชร์ อานนท์ : ไม่ ฉันมีต้นตำรับบูลลี่ โดนดราม่ามาตลอด ตั้งแต่ พ.ศ. 2535
เอิ๊ก : คือต่อให้ไม่มีดราม่า เขาก็พยายามหาดราม่าตลอด อยู่เฉยๆ เหมือนเหงา
จริงไหม ที่อ่านข่าวไม่ขำแล้วมีดราม่าในโซเชียล จนผู้ใหญ่ต้องยุบรายการ ?
เอิ๊ก : ไม่ใช่ต้องบอกว่าการกลับมาของเรา 2 คน ครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งที่ 2 คือก่อนหน้านี้เราเคยทำด้วยกันมา ก่อนหน้านั้น 7-8 ปี
กับพี่เอิ๊กเป็นเพื่อนกันมาก่อนไหม ?
เอิ๊ก : คนที่เป็นเพื่อนเวลาว่างเขาจะโทรคุยกัน หรือว่าเจอกันเป็นครั้งคราว โทรปรึกษาหารือกัน แต่ของเราคือเจอกันเฉพาะในรายการ พอจบรายการก็ต่างคนต่างแยกย้าย แล้วก็ไม่คุยกันเลย แต่ไลน์คุยกันทุกวันเรื่องเดียว ว่าพรุ่งนี้จะใส่อะไรจบ
แกล้งตีกันหรือเปล่า เพื่อให้ขายได้ มีความผูกพันอะไรกันไหม ?
พชร์ อานนท์ : ไม่มี แต่ไม่ใช่ไม่ชอบ คือมันคนละสไตล์ของพี่ไปไหนมาไหนกินข้าวริมถนนได้หมด แต่เอิ๊กเขาจะไม่ได้เขาต้องกินข้าวดูดี
เอิ๊ก : ไลฟ์สไตล์คนละแบบกันมากกว่า
เรื่องแต่งตัวแบรนด์เนม ?
เอิ๊ก : แรกๆ เขามากระแหนะกระแหน ว่าเธอซื้อชุดแพงๆ เป็นแสน เธอไม่มีตังค์เยอะอย่างเดียวเธอต้องโง่ด้วย แต่พอมาเจอเขาอีกครั้งหนึ่ง เราก็เลยแซวเขาว่าโอ้โหตั้งแต่หัวจดเท้า ยันกางเกงใน
พชร์ อานนท์ : เหมือนเป็นเวรกรรมไปด่าเขาเยอะ พอไปใส่แล้วรู้สึกชอบแล้วซื้อเป็นบ้าเป็นหลัง บางทีไปหมดเป็นล้าน ชิ้นแรกที่ซื้อก็คือกระเป๋า แรกๆ เราก็ประหยัดเงิน แต่พอคุณแม่เสียเราก็ใช้เงินเลย แต่ช่วงนี้ก็เบาลงเพราะโควิด
ไม่กล้าขาย เพราะกลัวคนเมาท์ว่าตกอับจริงไหม ?
พชร์ อานนท์ : ไม่จริง ไม่อยากขายเพราะเสียดาย ฉันรวย
พี่พชร์มีเด็กๆ ที่เลี้ยงเยอะไหม ?
พชร์ อานนท์ : ไม่เยอะมีแค่คนเดียว เลี้ยงเยอะไม่ไหว เลี้ยงเยอะแค่ผ่าน
เอิ๊ก : เขาเลือกคนเปย์ ไม่ได้เปย์ทุกคน
เอาอะไรเปย์ผู้ชาย ?
พชร์ อานนท์ : ก็ค่าเรียนหนังสือ โทรศัพท์ รถ บ้าน
เห็นว่าอายุห่างกัน 30 ปี ?
พชร์ อานนท์ : ก็คบกันตั้งแต่เขาอายุ 17-18 พ่อแม่เขาตายไปแล้ว ก็เจอกันโดยบังเอิญ เราก็ไม่คิดว่าเขาจะมาเป็นแฟนเราหรอก เขาเป็นคนมาจีบเรา ฉันไม่ได้หรอกเขามาเอง ไม่ได้เป็นดารา
เปย์อะไรเขาบ้าง ?
พชร์ อานนท์ : เราเป็นผู้ใหญ่เราก็ต้องรับผิดชอบชีวิตเขา อย่างค่าเล่าเรียน รถขับ บ้านก็ให้อยู่ ตอนนี้ก็ยังอยู่ คนนี้ 8-9 ปี อายุป่านนี้ไม่ต้องการความรัก แค่ต้องการเพื่อน แต่ก็รักนะ รักอยู่คนเดียว เหมือนเจ้าชู้แต่รักอยู่คนเดียว
คลิปสัมภาษณ์ พชร์-เอิ๊ก